นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์ เท่ากับช่วงเปิดตลาดเมื่อเช้า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.43-33.48 บาท/ดอลลาร์ ตลาดรอดูผลประชุม ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้
"บาทแกว่งตัวแคบตามทิศทางของ Flow ที่มีทั้งสองฝั่ง ตลาดน่าจะรอดูผลประชุม FOMC วันพรุ่งนี้" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้อยู่ระหว่าง 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 111.42 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.23 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1654 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1639 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,581.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด, +0.30% มูลค่าการซื้อขาย 46,193.66 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,597.37 ล้านบาท(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 เงินบาทแข็งค่าประมาณ 7% จากการอ่อนค่าของ
ดอลลาร์สหรัฐเป็นสำคัญ อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมายังมีเงินลงทุนโดยตรงของภาคธุรกิจที่ไหลเข้ามาเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติมด้วย โดยแม้ใน
ภาพรวมการแข็งค่าของเงินบาทจะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของเงินสกุลภูมิภาค แต่ระยะหลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็ว
สะท้อนปฏิกิริยาของตลาดที่อ่อนไหวกับความผันผวนในระยะสั้นที่มากเกินไป ดังนั้น ธปท.จะติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินดังกล่าว
อย่างใกล้ชิด
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (โครงการรถไฟฟ้า
สายสีม่วงใต้) ระยะทาง 23.6 กม. กรอบวงเงินลงทุนโครงการ 1.01 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน พ.ค.67
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลาง 1,851 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราของ
หน่วยงานภาครัฐ ปี 2560
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปี 60 จะพลิกฟื้นกลับขึ้นมาเป็นบวกอีกครั้งในรอบสอง
ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมการส่งออกของไทย โดยคาดว่า มูลค่าการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ไทยจะสูงถึง 34,670 – 35,370 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัว 7.2 – 9.4% จากปี 59 ที่หดตัวราว 0.8%
- สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีปรับตัวขึ้น
จากระดับ 115.2 จุดในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 116.0 ในเดือนก.ค. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดนับ
ตั้งแต่ปี 2534 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงแตะ 114.9
- นักลงทุนจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะเริ่มต้นในวันนี้ โดย
นักลงทุนเฝ้าจับตาว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด