บสย.ชง ครม.สัปดาห์หน้าปรับเกณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อขอรัฐอุดหนุนหวังเร่งเพิ่มยอด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 27, 2017 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า บสย.จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี ทวีทุน ระยะที่ 6 (PGS6)

โดย บสย.ได้เสนอให้มีการการลดค่าธรรมเนียม 4 ปี แรกเฉลี่ย 3% โดยจะขอรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก ปีที่ 2 คิดอัตรา 0.5% ปีที่ 3 คิดอัตรา 1% และปีที่ 4 อัตรา 1.5% จากปัจจุบันที่ผู้ประกอบการรับภาระดอกเบี้ยเองทั้งหมด 1.75% และปรับเงื่อนไขที่ บสย.จ่ายประกันความเสี่ยงกรณีเอสเอ็มอีเป็นหนี้เสียจากเดิม 23.75% เป็น 30%

"เชื่อว่าหากเรื่องดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้วจะช่วยทำให้ บสย.ค้ำประกันในโครงการ PGS6 เพิ่มขึ้นราว 6-7 หมื่นล้านบาท จากวงเงินดำเนินการทั้งสิ้น 1 แสนล้านบาท โดยขณะนี้ได้มีการค้ำประกันไปแล้ว 1.7 หมื่นล้านบาท"นายนิธิศ กล่าว

นายนิธิศ กล่าวว่า การปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นผลจากการหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และสมาคมธนาคารไทยถึงแนวทางการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้นนั้น นายสมคิด ได้ขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินทุกแห่งให้มีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในส่วนนี้อยู่ในระดับสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติของธนาคารถึง 3.5%

นอกจากนั้น นายนิธิศ ยังกล่าวถึงผลการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อในรอบ 6 เดือนแรกของปี 60 (ม.ค.-มิ.ย.) ณ 30 มิ.ย.60 เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมียอดค้ำประกันสินเชื่อจำนวน 29,591 ล้านบาท อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 47,204 ฉบับ และมีลูกค้ารายใหม่ เพิ่มขึ้น 39,771 ราย

สำหรับผลดำเนินงานล่าสุด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมียอดค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 33,890 ล้านบาท การอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 54,234 ฉบับ และมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 47,102 ราย ผลสำเร็จดังกล่าวมาจากมาตรการให้การสนับสนุนจากรัฐบาล และจากกระทรวงการคลังในช่วงที่ผ่านมาที่ให้การสนับสนุนโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อย (Micro) ก่อให้เกิดการเข้าถึงสินเชื่อได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ บสย.ในปี 60 คือ การขยายฐานลูกค้า SMEs ทุกกลุ่มเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

ทั้งนี้ เป้าหมายการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าใหม่ในปี 60 ตั้งไว้ที่ 67,419 รายนั้น ขณะนี้สามารถเพิ่มจำนวนได้แล้ว 47,102 ราย ขณะเดียวกัน บสย.ตั้งเป้าจำนวนการออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LG) 88,518 ฉบับ โดยสามารถให้ความช่วยเหลือค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไปแล้ว 54,234 ฉบับ คิดเป็นจำนวนการอนุมัติหนังสือค้ำประกันเพิ่มขึ้นถึง 163% และจำนวนลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น 243% เป็นไปตามยุทธศาสตร์ บสย.

นายนิธิศ ยังกล่าวถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังว่า บสย. ยังมุ่งมั่นภารกิจด้านการค้ำประกันสินเชื่อโดยมุ่งส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อให้มากที่สุด ทั้งในด้านจำนวนเงินและจำนวนราย ในฐานะหน่วยงานของรัฐและเป็นกลไกของรัฐเข้าไปช่วยเหลือด้านของการค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs มีเม็ดเงินหรือมีสายป่านที่เพียงพอในการทำธุรกิจ เพื่อไปสู่เป้าหมาย 86,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บสย.จะให้การสนับสนุนและผลักดันโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยต่อไป ซึ่งขณะนี้มีธนาคารเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารทิสโก้, ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งได้ร่วมโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเกษตรรายเล็กๆ รวมถึง ล่าสุด ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มมุสลิมรายย่อยในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ