นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 33.31 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.27 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.27-33.32 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันเงินบาทขยับอ่อนค่าขึ้นมากเล็กน้อย น่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากข่าวตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ สหรัฐฯ..ขณะที่สกุลหลักยังวิ่งแคบๆ"นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.25 - 33.35 บาท/ดอลลาร์
"ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูต่อไปคือ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯซึ่งจะประเกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งตลาดค่อนข้างให้ความ สำคัญ" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.78 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 110.69 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์/ยโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1793 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,573.67 จุด ลดลง 4.59 จุด, -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 33,269.69 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 712.04 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
33.20-33.40 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 33.24 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตลาดให้ความสนใจต่อการเปิดเผย
ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
- รมว.คลัง ระบุว่า ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าที่สุดในภูมิภาคในขณะนี้ เกิดจากเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในประเทศมาก
ชึ้น โดยมั่นใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดูแลค่าเงินบาทได้ และไม่ปล่อยให้แข็งค่าเกินความจำเป็น ขณะที่เชื่อว่าการ
ส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่คงไม่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทมาก
นัก เนื่องจากได้ทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว
- นายโซจิ ซาคาอิ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น (Japanese Chamber of Commerce:JCC) นำคณะผู้บริหารชุดใหม่
เข้ามาแนะนำตัว พร้อมหารือประเด็นทางเศรษฐกิจต่าง ๆ กับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ รวมถึงรายงานผลการสำรวจแนว
โน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2560 โดยผลสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า บริษัทญี่ปุ่นใน
ประเทศไทยมีแนวโน้มเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าครึ่งหลังของปี 2559 และคาดว่าเศรษฐกิจในประเทศ
ไทยจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2560
- ธนาคารกลางจีนรายงานในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.081 ล้านล้านดอลลาร์
สหรัฐ ณ สิ้นเดือนก.ค. โดยเพิ่มขึ้น 2.393 หมื่นล้านดอลลาร์ จากตัวเลข ณ สิ้นเดือนมิ.ย. เนื่องจากแรงกดดันจากกระแสเงินทุน
ไหลออกได้ผ่อนคลายลง
- ธนาคารกลางจีนได้ระบายเม็ดเงินมูลค่า 6 หมื่นล้านหยวนออกจากตลาดในวันนี้ ผ่านการดำเนินการทางตลาดเงิน
(Open Market Operations: OMO) จากการที่จำนวนพันธบัตรครบกำหนดมีมูลค่ามากกว่าที่อัดฉีดใหม่
- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างข้อมูลจากเอกสารภายในของจีนว่า คณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารจีน (CBRC)
ได้ตัดสินใจขยายกำหนดเวลาให้กับธนาคารพาณิชย์ของจีน ในการยื่นรายงานประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อ ออกไป
จนถึงกลางเดือนส.ค.นี้ จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 มิ.ย. สืบเนื่องจากเกิดความวิตกว่า หากใช้มาตรการที่เข้มงวดเกินไป อาจ
ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจจีน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 5.01% ในไตร
มาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวในระดับเดียวกับไตรมาส 1