พาณิชย์ เพิ่มมาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-มันสำปะหลัง ปี 60/61 หวังรักษาเสถียรภาพราคาไม่ให้ตกต่ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 16, 2017 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงมาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิตปี 60/61 ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ ว่า ขณะนี้กระทรวงฯ ได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมสินค้าทั้ง 2 รายการ เพื่อทำให้เกษตรกรสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่เป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพราคา ไม่ให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ โดยในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้กำหนดมาตรการบริหารจัดการซื้อตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยจะใช้โมเดล 3 ประสาน ระหว่างเกษตรกร ผู้รวบรวม (พ่อค้าคนกลาง) และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ เพื่อบริหารจัดการการรับซื้อตลอดห่วงโซ่ให้เกิดความเป็นธรรม โดยจะนำร่องที่จ.นครราชสีมา เป็นแห่งแรก

"โมเดล 3 ประสานจะเริ่มที่โคราชก่อน โดยในเร็วๆ นี้ หจก.ตรงพานิช จะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดแห้ง เบอร์ 2 ความชื้น 14.5% กิโลกรัม (กก.) ละ 8 บาท ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรนิคมลำตะคอง ปริมาณ 10,000 ตัน และสหกรณ์การเกษตรปากช่อง 5,000 ตัน รวม 15,000 ตัน การดำเนินการเช่นนี้จะทำให้มีผู้รับซื้อผลผลิตของเกษตรกรที่แน่นอน และขายได้ราคาตามที่กำหนด ไม่เกิดปัญหาราคาตกต่ำ และจะใช้โมเดลนี้กับทุกจังหวัดที่มีโรงงานอาหารสัตว์" นางอภิรดี กล่าว

นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คุณภาพดี ที่ความชื้นไม่เกิน 14.5% โดยเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วควรตากให้แห้ง และทยอยนำออกมาขาย เพื่อให้ขายได้ที่ กก.ละไม่ต่ำกว่า 8 บาท ตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ทั่วประเทศให้รับซื้อ ขณะเดียวกันจะเร่งหาตลาดส่งออก เช่น ฟิลิปปินส์ ที่เป็นลูกค้าเก่า และศรีลังกา ตลาดใหม่

ส่วนมาตรการเพิ่มเติมสำหรับมันสำปะหลังจะเชื่อมโยงตลาดล่วงหน้ากลุ่มเกษตรกรที่ผลิตมันเส้นสะอาดกับโรงงานเอทานอล เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้มันสดในประเทศ โดยในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ บริษัท ทรัพย์ทิพย์ เอทานอล จำกัด จะลงนามในเอ็มโอยูเพื่อรับซื้อมันสดจากสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทดปีละ 10,000 ตัน และสหกรณ์การเกษตรเทพารักษ์ ปีละ 10,000 ตันเช่นกัน นอกจากนี้จะเชื่อมโยงตลาดกับกลุ่มปศุสัตว์ เช่น โคเนื้อ โคนม และส่งเสริมการปลูกมันออร์แกนิค รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงส่งเสริมการแปรรูปมันเป็นสินค้าอื่นๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น อาหารเด็ก อาหารผู้สูงวัย เป็นต้น

"ที่สำคัญ ขอความร่วมมือสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้กำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน เพื่อไม่ให้ส่งออกมันเส้นในราคาต่ำเกินจริง หรือไม่ขายตัดราคากันเอง เพราะจะทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากการถูกกดราคารับซื้อหัวมันสด และยังทำให้ราคาหัวมันตกต่ำ รวมถึงต้องมีมาตรการลงโทษสำหรับคนทำผิดด้วย" นางอภิรดี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ