ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 พบว่า ภาพรวมสินเชื่อสุทธิปรับตัวลงจากเดือนก่อน 8.5 หมื่นล้านบาท เป็น 10.68 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลง 0.79% MoM แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน และสิ้นปีก่อน 2.51% YoY และ 0.76% YTD โดยหดตัวลงในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 อันดับแรก ตามการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อภาคธุรกิจ สินเชื่อภาครัฐ และสินเชื่อเอสเอ็มอี
ขณะที่สินเชื่อรายย่อย ปรับตัวดีขึ้นในหลายผลิตภัณฑ์ นำโดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหม่ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบัตรเครดิต/สินเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าจะยังมีผลกระทบของการชำระคืนหนี้สินเชื่อเช่าซื้อที่ค่อนข้างมากจากโครงการรถคันแรก ซึ่งทำให้มีผลลบต่อยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์บางแห่งก็ตาม
ขณะที่ภาพรวมเงินฝากเดือน ก.ค. 2560 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนเพียง 1.5 หมื่นล้านบาท หรือ 0.13% MoM แต่เมื่อเทียบกับภาพรวมสินเชื่อแล้ว เงินฝากยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่าสินเชื่อ โดยขยายตัวดีที่ 3.93% YoY และ 2.70% YTD อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของเงินฝากยังดำเนินไปควบคู่กับการปรับโครงสร้างเงินฝากเพื่อบริหารจัดการต้นทุน โดยเป็นการเพิ่มของเงินฝากประเภทกระแสรายวัน และออมทรัพย์ (CASA) เป็นหลัก ขณะที่สัดส่วนเงินฝากประจำยังคงลดลงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เงินฝากที่เพิ่มขึ้นในเดือนนี้ มาจากการระดมเงินฝากของกลุ่มธนาคารขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นไปเพื่อรองรับการไถ่ถอนหุ้นกู้ในระยะถัดไป และรักษาระดับสภาพคล่องของตน ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่มียอดเงินฝากลดลง แม้ยังมีเงินฝากภาครัฐไหลเข้าจำนวนมากก็ตาม นอกจากนี้ ทุกกลุ่มธนาคารยังมียอดตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (Borrowing) ลดลงรวม 2.8 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดคงค้างเงินฝากที่รวม Borrowing ลดลงจากเดือนก่อน 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับทิศทางการลดลงของสินเชื่อ
ส่วนภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารผ่อนคลายลงจากเดือนก่อน ตามการลดลงของสินเชื่อ ที่สวนทางกับเงินฝาก ทำให้สัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ในเดือน ก.ค. 2560 ปรับลดลงมาที่ 90.55% จากระดับ 91.14% ในเดือน มิ.ย. สอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่ปรับขึ้นมาที่ระดับ 21.46% จาก 21.21% ในเดือนก่อนหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มขยับขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลและการสนับสนุนจากภาครัฐ แม้เริ่มเดือนแรกของช่วงครึ่งปีหลัง สินเชื่อจะหดตัวลงค่อนข้างแรง แต่ด้วยแรงส่งเศรษฐกิจที่น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงท้ายปี และมาตรการสนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอีของภาครัฐที่ส่งสัญญาณเชิงรุกมากขึ้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ยังมีสัญญาณที่ดีจากสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยอื่น ๆ น่าจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ซึ่งทำให้ในภาพรวมแล้ว ยังคงประมาณการสินเชื่อปีนี้ที่ 4%
ส่วนด้านเงินฝาก คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะยังเน้นการประคองระดับเงินฝากเพื่อบริหารจัดการสภาพคล่องให้อยู่ในระดับเพียงพอกับจังหวะของการปล่อยสินเชื่อ ควบคู่กับการรักษาความสามารถในการทำกำไร ดังนั้น จึงน่าจะทำให้ยังไม่เห็นภาพการแข่งขันด้านราคาของผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษที่รุนแรงในระยะนี้