นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท กล่าวในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ได้มีการรายงานผลการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 61 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาแล้วเสร็จรวม 65 มาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับกระทรวง และระดับชาติ กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจของหน่วยงานต่างๆ ด้วยการจัดทำงบแบบบูรณาการ และเชื่อมต่อกับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม
พร้อมกันนี้ ได้มีการจัดทำตัวชี้วัดของแต่ละหน่วยงาน เพื่อประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายในปีถัดไป
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้มีการปรับลดงบประมาณรายจ่ายลง 22,163 ล้านบาท เนื่องจากพิจารณาให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และแผนแม่บทระดับชาติ รวมถึงพิจารณาถึงความคุ้มค่าและขีดความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยในส่วนของงบประมาณที่มีการปรับลดลง เช่น โครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โครงการที่ไม่มีความชัดเจน มีการใช้จ่ายที่ไม่ประหยัด เช่น ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจ้างเหมาบริการ การจ้างที่ปรึกษา รวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น รวมถึงโครงการที่ดำเนินการได้ล่าช้ากว่ากำหนด และไม่สามารถเบิกจ่ายงบได้ทันปี 61 รวมถึงการปรับลดงบประมาณค่าก่อสร้างในบางรายการที่มีต้นทุนลดลง จากผลของดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลดลง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 60 ในภาพรวมแล้ว ได้ปรับเพิ่มงบประมาณอีก 22,163 ล้านบาท เท่ากับจำนวนที่ปรับลดลงไป เพื่อให้ส่วนราชการต่างๆ มีงบประมาณในการรองรับการดำเนินนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในระยะต่อไป และเพื่อรองรับการดำเนินนโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 20 ปี ดังนั้นจึงยังทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ยังคงเป็นจำนวนเงินเท่าเดิมที่ 2.9 ล้านล้านบาท ตามที่ สนช.ได้ลงมติรับหลักการไปในวาระแรก