ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 33.17 แกว่งในกรอบแคบ ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ พรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 31, 2017 16:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.17 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.19 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังคงแกว่งในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดมากนัก คาดว่านักลงทุนรอดูตัวเลขการ จ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ประจำเดือนส.ค. ที่จะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้

"วันนี้บาทยังคง sideway ตลาดน่าจะรอดูตัวเลข Nonfarm ของสหรัฐคืนพรุ่งนี้" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15-33.30 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 33.2092 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.55 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1880 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1875 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค. 60 ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออก
สินค้าและบริการขยายตัวดีสอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐปรับดีขึ้น
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวดีทั้งการผลิตเพื่อส่งออกและเพื่อรองรับอุปสงค์ในประเทศ สำหรับการบริโภคภาคเอกชนยัง
ขยายตัว แม้ชะลอลงบ้างตามการใช้จ่ายในหมวดบริการเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลง ส่วนหนึ่งจากรายได้ภาคเกษตรกรรมที่หดตัวเป็นครั้งแรกในปีนี้จาก ด้านราคาเป็นสำคัญ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ อัตราการว่างงานที่ ปรับฤดูกาลทรงตัวเท่าเดือนก่อน ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องตามรายรับจากภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยว

  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การลงทุนของรัฐวิสาหกิจไตรมาสที่ 2/2560
ขยายตัวสูงถึง 20.5% ต่อปี เป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 17% ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในไตร
มาสที่ 2/2560 ขยายตัวที่ 3.7%

สำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจสะสมในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม - กรกฎาคม 2560) ขยายตัวสูงถึง 30% ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งลงทุนของโครงการต่อเนื่องและโครงการใหม่ของรัฐวิสาหกิจ เช่น โครงการก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โครงการพัฒนาที่ อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และโครงการระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น

  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค.60 อยู่ที่
109.16 ขยายตัว 3.73% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ส่งผลให้ MPI 7 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 0.62% ส่ง
สัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างชัดเจน
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 2.1% ในปี 2560 และขยายตัว 1.9% ใน
ปี 2561 หลังจากที่มีการขยายตัวเพียง 1.6% ในปีที่แล้ว

ขณะเดียวกันมูดี้ส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัว 2.2% ในปี 2560 และขยายตัว 2% ในปี 2561 และคาด ว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะขยายตัว 1.6% ทั้งในปี 2560 และ 2561

มูดี้ส์คาดว่า เศรษฐกิจอิตาลีจะขยายตัว 1.3% ทั้งในปี 2560 และ 2561 โดยได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินและการ คลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซน พร้อมกับคาดว่าเศรษฐกิจในประเทศกลุ่ม G20 จะขยายตัวกว่า 3% ในปีนี้ และปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ได้เตือนเกี่ยวกับปัญหาการเมืองโลก เช่นเดียวกับประเด็นปกป้องทางการค้าของสหรัฐ กระแสการขึ้น ดอกเบี้ยของธนาคารกลาง และปัญหาหนี้สินของจีน

  • นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้าง
งานจะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น
ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,

ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home

sales) เดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบัน

จัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัย

มิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ