สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดรับความคิดเห็นของร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบธุรกิจด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน (ร่างพ.ร.บ. ฟินเทค) ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-14 ก.ย.60 ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หรือส่งแบบสำรวจความคิดเห็นกลับไปที่กลุ่มงานพัฒนากฎหมาย สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รวมถึงการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรมการฟินเทค ของสนช. ได้จัดสัมมนาร่างกฎหมายฟินเทค ที่รัฐสภา โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวว่า เทคโนโลยีวันนี้สามารถพลิกโฉมกระบวนการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้โดยสิ้นเชิง แต่อุปสรรคสำคัญคือกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีและไม่สนับสนุนการนำข้อมูลไปใช้วิจัยและพัฒนา
ดังนั้น ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นหลังพิงให้แก่ผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมทางการเงินรวมถึงด้านหลักทรัพย์ด้วยวิธีการดิจิตอลสามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่ากฎหมายจะไม่รองรับ , ผู้ที่ต้องการแสดงตนแบบ non face-to-face ของผู้ใช้บริการต่อผู้ให้บริการทางการเงิน Know Your Customer (KYC) สามารถอ้างอิงได้ว่าทำอย่างไรจะถูกต้องตามกฎหมาย ,การแชร์ข้อมูลที่ปกปิด identity แล้ว ที่เรียกว่า anonymized data ทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และยิ่งไปกว่านั้นสำหรับหน่วยงานรัฐมีหน้าที่เปิดเผย anonymized data ให้ผู้ให้บริการทางการเงินและด้านเทคโนโลยีได้นำไปใช้วิจัยและพัฒนาบริการ นอกจากนี้ร่างกฎหมายนี้จะช่วยให้สถาบันการเงินเข้าถึงข้อมูลประกอบการทำ KYC จากหน่วยงานของรัฐได้โดยสะดวกขึ้นด้วย
การให้บริการแบบดิจิตอลจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง สะดวก และด้วยต้นทุนที่ลดลง ร่างกฏหมายนี้พยายามแก้ไขเรื่องที่เป็นปัญหาเหมือน ๆ กันของบริการทางการเงินหลายประเภท อย่างไรก็ดียังมีปัญหาอุปสรรคอื่น ๆ ที่ไม่สามารถแก้ด้วย ร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของแต่ละ regulator ต้องไปทำของตัวเอง เช่น การเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งขันได้ การลดภาระจากกติกาที่ไม่ได้จำเป็นต่อการคุ้มครองประชาชนผู้ใช้บริการ