นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดที่ 33.08 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเช้า นี้อยู่ที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องจากการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ระหว่างวันเงินบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 33.08-33.15 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค
"บาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องจากปัจจัย flow ไหลเข้ามาในตลาดหุ้น วันนี้ผิดคาดหลุดแนวรับ 33.10 ทำ new low ใน รอบ 29 เดือน ซึ่งนับจากต้นปีเงินบาทแข็งค่าไปราว 8% แล้ว"นักบริหารเงิน กล่าว
คืนนี้ตลาดจับตาดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งอาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตาม มาตรการ QE
นักบริหารเงินประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 108.86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.17 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1977 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1920 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,632.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด, +0.70% มูลค่าการซื้อขาย 62,941.64 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,097.40 ล้านบาท(SET+MAI)
- ธนาคารทหารไทย (TMB) ปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3.5%
- สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและ
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 2
เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้น และตัวเลข คาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.2% หลังจากมีการเติบโต 2.0% ในไตรมาสแรก
- กระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าภาคบริการของจีนได้ปรับตัวลดลงในเดือนก.ค.
เนื่องจากอุตสาหกรรมเกิดใหม่เกินดุลการค้า โดยยอดส่งออกภาคบริการลดลง 2% เทียบรายปี แตะ 1.133 แสนล้านหยวน
(1.736 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวลดลง 1.9% แตะ 2.548 แสนล้านหยวน ส่งผลให้จีนขาดดุลการค้า
1.415 แสนล้านหยวน ลดลง 30% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น