นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.09/11 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์
ในภาพรวมแล้วเงินบาทยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งค่า เนื่องจากยังมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาทั้งในด้านของตลาด พันธบัตร และตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้เงินบาทยังคงแข็งค่าไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค
"บาทยังคงแข็งค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เพราะยังมี flow เข้าทั้งตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นไทย" นัก
บริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.00-33.20 บาท/ ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.42 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์/ยูโร จากเช่วงเช้าที่ระดับ 1.2022 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,635.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.95 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 76,732 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,586.91 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (11-15 ก.ย.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.80-
33.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยยังคงต้องจับตาปัญหาเกาหลีเหนือต่อเนื่อง ขณะเดียวกันประเด็นการเมืองสหรัฐฯก็มีหลายเรื่องที่
อ่อนไหวและอาจกดดันดอลลาร์สหรัฐฯต่อเนื่อง โดยต้องติดตามเรื่องการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ และความพยายามในการผลักดัน
นโยบายปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ
- กระทรวงการคลัง อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 2 ราย ได้แก่ Ministry of Finance of the
Lao People’s Democratic Republic (MOFL) และ Nam Ngum 2 Power Company (NN2PC ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุล
เงินบาทในประเทศไทย ในช่วงวันที่ 1 กันยายน 2560 – 31 พฤษภาคม 2561
- กรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ในช่วง 11 เดือน ตั้งแต่เดือนต.
ค.59 - สิ้นเดือน ส.ค.60 พบว่า ผลการเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมเบิกจ่ายได้จำนวน 2,399,152 ล้านบาท ของวงเงินงบ
ประมาณ 2,733,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87.78% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.86% (ปีก่อนเบิกจ่ายได้ 86.92%)
- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับ
เกาหลีเหนือ แม้การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในทางเลือกที่อาจเกิดขึ้นได้ก็ตาม
- สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน น้อยกว่าที่นัก
วิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.25% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8%
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.ค.ขยายตัวเพียง
0.5% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 0.7% ขณะที่ผลผลิตภาคเกษตรกรรมและการกลั่นน้ำมันหด
ตัวลง
- บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า สกุลเงินริงกิตของมาเลเซียซึ่งทะยานขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน
เทียบดอลลาร์นั้น อาจอยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า เวเนซุเอลาวางแผนที่จะยกเลิกการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยสกุลเงิน
ดอลลาร์ โดยอาจจะหันไปใช้สกุลเงินอื่นๆแทน ซึ่งรวมถึงสกุลเงินหยวน
- ตลาดจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีว่า เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธหรือไม่ในวันเสาร์ที่ 9 ก.
ย.นี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ