กบร.เล็งเสนอร่างนโยบายห้วงอากาศต่อ ครม.บริหารจัดการรองรับตลาดการบินโต

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ในวันนี้ได้เห็นชอบการจัดทำร่างนโยบายห้วงอากาศแห่งชาติเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบินที่มีการเติบโตมาก และมีแนวโน้มที่สายการบินต่างๆ จะบินเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น ขณะที่ไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องห้วงอากาศ ซึ่งปัจจุบันเป็นการใช้ร่วมกันทั้งด้านมั่นคงและเศรษฐกิจจึงต้องทำแผนเพื่อให้การบริหารมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และเป็นไปตามองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า นโยบายห้วงอากาศเป็นการจัดสรรน่านฟ้าเป็นการจัดระบบห้วงอากาศให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งปกติจะมีบางโซนที่สงวนไว้ไม่สามารถบินได้เพราะเป็นเขตความมั่นคง บางโซนจำกัด ให้ใช้ในบางฤดูกาล เป็นต้น ดังนั้นนโยบาย จะดูโซนที่ไม่ได้หวงห้ามชัดเจน ให้สามารถปรับใช้ได้ กรณีไม่ได้ใช้ในด้านความมั่นคง สามารถนำมาบริหารจัดการด้านการบินได้ เพื่อเพิ่มเส้นทางการบินในห้วงอากาศมากขึ้น โดยจะมีกลไกลในการบริหาร เพื่อรองรับตลาดการบินที่โต ควรมีถนนบนอากาศเพิ่มเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการบินวนรอนาน

ส่วนกรณี คสช.เตรียมออกคำสั่งตามมาตรา 44 ห้ามสายการบินที่ยังไม่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC) ที่ให้สายการบินหยุดบินหลังจากวันที่ 1 ก.ย.60 นี้นั้น นายอาคม กล่าวว่า เพื่อประโยชน์ของประเทศไทยและไม่ได้หมายความว่าสายการบินที่ยังไม่ได้รับ AOC จะไม่มีความปลอดภัย เพราะยังสามารถบินเส้นทางภายในประเทศได้ โดยต้องเสนอขออนุญาตมาที่สถาบันการบินพลเรือน (กพท.)

รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้มีสายการบินที่ได้ใบรับรอง AOC ใหม่แล้ว 9 สายการบิน ส่วนมาตรการช่วยเหลือสายการบินที่อยู่ระหว่างขอใบรับรองการเดินอากาศใหม่ (Re-AOC) ทาง กพท.ขอความร่วมมือไปยังกรมท่าอากาศยาน(ทย.) เพื่อให้สายการบินสามารถทำการบินในประเทศได้ตั้งแต่บัดนี้ไปถึงวันที่ 31 ม.ค.61 ระหว่างที่ยังไม่ได้รับ AOC ใหม่ ซึ่งมี 12 สายการบิน พร้อมทั้งจะมีการปรับตารางเวลาในการเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบเพื่อผ่านการรับรองได้ Re- AOC

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. กล่าวว่า กรณีต้องมีคำสั่ง คสช.ห้าม 12 สายการบินหยุดบินระหว่างประเทศ เนื่องจากข้อกฏหมายในการสั่งให้สายการบินหยุดบินไม่มีความชัดเจนที่จะให้อำนาจ กพท.สั่งหยุดบินได้ ดังนั้นจึงอาศัยคำสั่ง คสช.ให้อำนาจ กพท.

สำหรับมาตรการช่วยเหลือสายการบินที่ยังไม่ได้รับ Re-AOC สำหรับสนามบินของ ทย.ได้แก่ การลดค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (Parking Fee) 50% และหากจอดนานจะไม่คิดอัตราก้าวหน้า, กรณีบินในสนามบินย่อยของ ทย.ที่มีผู้โดยสารไม่เกิน 2 แสนคนจะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงอากาศยาน (Landing Fee) เป็นขั้นบันไดใน 3 ปีข้างหน้า ตั้งแต่อัตรา 50% 65% และ 80% และลดค่าเช่าสำนักงาน 50% ใน 3 ปีข้างหน้า

กรณีสนามบินระหว่างประเทศของ ทย. จะลดอัตรา 50-65-80% ลดค่าเช่าสำนักงาน 50% และลดค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร(PSC) 50% ใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยสนามบินของทย.มีเที่ยวบินมากขึ้น