นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงท้ายปีงบประมาณ2560 ของกรมท่าอากาศยานว่า ขณะนี้กรมท่าอากาศยานมีหลายแผนงานที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละโครงการถือว่ามีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จและเป็นที่น่าพอใจหลายโครงการ ดังนี้
ด้านความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้าง
1) โครงการปรับปรุงขยายท่าอากาศยานแม่สอด ซึ่งประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ขนาด 12,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 600 คนต่อชั่วโมง หรือ 1.5 ล้านคนต่อปี เริ่มดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา เมื่อวันที่ 19 พ.ค.59 กำหนดงานแล้วเสร็จภายใน 900 วัน งบประมาณ 447,600,000 บาท ปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.60 คิดเป็น 71.58% ของปริมาณงานทั้งหมด เร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ 30.69% ซึ่งขณะนี้กรมท่าอากาศยาน ได้เตรียมความพร้อมในด้านอุปกรณ์และบุคลากร เพื่อรองรับการเปิดให้บริการของอาคารที่พักผู้โดยสาร หลังใหม่
ในส่วนงานก่อสร้างทางขับ ลานจอดอากาศยาน และเสริมผิวทางวิ่งเดิม โดยได้ดำเนินการก่อสร้างต่อเติมทางวิ่งจากเดิม ขนาด 30 x 1,500 เมตร ให้เป็นขนาด 45 x 1,500 เมตร และก่อสร้างไหล่ทางวิ่ง ทั้ง 2 ข้าง ขนาดกว้าง 7.50 เมตร รวมถึงขยายทางขับงบประมาณ 297,000,000 บาท ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเดือน ก.ย.60 คิดเป็น 72.92% ของปริมาณงานทั้งหมด และงานก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง จากเดิมขนาด 45 x 1,500 เมตร เป็น 45 x 2,100 เมตร เริ่มดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา เมื่อวันที่ 22 มี.ค.60–19 ก.พ.62 งบประมาณ 368,723,100.-บาท ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเดือน ก.ย.60 คิดเป็น 0.11% ของปริมาณงานทั้งหมด
2) โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ซึ่งประกอบด้วยงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารประกอบ เริ่มดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา 31 มี.ค.60 งบประมาณ 338,388,888.-บาท ปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.60 คิดเป็น 0.5% ของปริมาณงานทั้งหมด
ขณะที่งานก่อสร้างทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน และอื่นๆ เริ่มดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา 29 ต.ค.59 งบประมาณ 1,316,732,396.16.-บาท ปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.60 คิดเป็น 24% ของปริมาณงานทั้งหมด ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ 13.06%ด้านความปลอดภัย
กรมท่าอากาศยานได้จัดทำโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ (Explosive Detection System :EDS) พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระ ห้องควบคุม และอุปกรณ์ ในกรอบวงเงินงบประมาณเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 435.3 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับการตรวจค้นสัมภาระลงทะเบียนที่ฝากไปกับอากาศยาน (Hold Baggage) ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญต่อการดำเนินงานด้านการรักษาความปลอดภัยให้มีความรัดกุม และเป็นไปตามข้อกำหนดของแผนการรักษาความปลอดภัยในการบินพลเรือนแห่งชาติ สอดคล้องกับมาตรฐานและข้อพึงปฏิบัติขอองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
โดยความคืบหน้าของการดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวันที่ 20 ก.ย.60 ของท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง ดังนี้ ท่าอากาศยานกระบี่ มีผลดำเนินงานตามแผนงาน 91.18% เร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ 1.18%, ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ผลการดำเนินงานที่ได้ 71.95% และท่าอากาศยานอุดรธานี ความคืบหน้าตามแผนงาน 93.94% เร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ 3.94% ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการในเดือน ต.ค.60 โดยกรมท่าอากาศยานพร้อมที่จะเดินหน้าในโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการให้บริการด้านการขนส่งทางอากาศให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนต่อไป