นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)คนใหม่ กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการหลังเข้ารับตำแหน่ง คือ การเร่งรัดการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หรือ “เน็ตประชารัฐ" ให้มีการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด และผลักดันให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล
“ภายใน 6 เดือนจะพยายามทำให้โครงการเน็ตประชารัฐต่อยอดเป็นรูปธรรม 4 ด้าน คือ อี-คอมเมิร์ซ ที่คนในชุมชนสามารถจำหน่ายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม, ระบบการแพทย์ทางไกล โดยใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในการสื่อสารเพื่อบริการทางการแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กับศูนย์การแพทย์ห่างไกล หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่มีข้อจำกัดในการรักษาผู้ป่วย, อี-เอ็ดดูเคชั่น หรือการทำให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ต สร้างความเท่าเทียมในการเรียนรู้ของเยาวชนทั่วประเทศ และบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยทำให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถบูรณาการระหว่างหน่วยงาน โดยมีชุมชนและประชาชนเป็นศูนย์กลาง “ ปลัดกระทรวงดีอี กล่าว
นอกจากนี้ยังมีงานสำคัญ อาทิ การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ หรือ Big Data เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดการจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ โดยกระทรวงฯจะเร่งทำฐานข้อมูลและระบบให้สามารถใช้งานร่วมกัน โดยกลุ่มที่สั่งการไปแล้ว อาทิ ข้อมูลเรื่องน้ำ, ข้อมูลบริการประชาชน ระบบแผนที่และโครงสร้างพื้นฐาน และข้อมูลความมั่นคง โดยจะทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน
เบื้องต้นกระทรวงดีอีได้มอบแนวทางผลักดันหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลฯ เช่น สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ เร่งดำเนินการ จุดประสงค์หลักเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และให้หน่วยงานภาครัฐสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ประกอบการทำงานด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
สำหรับโครงการดิจิทัลพาร์ค อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการคือได้เตรียมการตั้งสถาบันไอโอที (IOT:Internet of Things ) ส่วนอื่นจะเป็นการเชิญเอกชนทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุน
ด้านการผลักดันกฏหมายสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ ร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ฯลฯ กระทรวงฯจะเร่งผลักดันให้สามารถนำมาบังคับให้เร็วที่สุด โดยกฎหมายทุกฉบับที่จะออกมาจะต้องเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมและโดยยึดหลักสากล
“ส่วนตัวหวังว่า 12 เดือนข้างหน้ากระทรวงฯจะเป็นมีความเป็นสมาร์ทมากขึ้นคือเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานมากขึ้น" ปลัดกระทรวงดีอี กล่าว