รมว.พาณิชย์ เผยทูตยูเครนเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนต่อกัน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 12, 2017 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังนายอันดรีย์ เบชตา (H.E. Mr. Andrii Beshta) เอกอัครราชทูตแห่งยูเครนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ได้หารือถึงลู่ทางการขยายโอกาสการค้าการลงทุน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ที่ผ่านมาไทยและยูเครนมีความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นมาโดยตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะคงความสัมพันธ์อันดีในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งหวังว่าไทยและยูเครนจะร่วมมือกันผลักดันให้มีการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนผ่านกรอบต่างๆ เช่น พหุภาคี ภูมิภาค และทวิภาคีต่อไป

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้เชิญชวนให้นักลงทุนยูเครนเข้ามาลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซึ่งไทยมุ่งสร้างให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ทันสมัยของอาเซียน และมีมาตรการดึงดูดการลงทุนที่รัฐบาลพร้อมให้สิทธิพิเศษส่งเสริมการลงทุนที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เน้นการวิจัยและพัฒนาที่ยูเครนมีความเชี่ยวชาญ อาทิ อุตสาหกรรมการบิน และอุตสาหกรรมอวกาศ พร้อมทั้งเน้นย้ำจุดแข็งของไทยที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ใจกลางภูมิภาคอาเซียน และเป็นประตูไปสู่ประเทศในอาเซียนและเอเชีย

ขณะที่ยูเครนเห็นว่าไทยเป็นคู่ค้ารายสำคัญและเห็นโอกาสที่จะขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น รวมทั้งเห็นพ้องที่ยูเครนจะใช้ไทยเป็นประตูการค้าไปสู่อาเซียน เช่นเดียวกับที่ไทยจะใช้ยูเครนเป็นประตูการค้าไปสู่ภูมิภาคยุโรป

นอกจากนี้ ไทยและยูเครนได้ลงนามในความตกลงทางการค้าระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งยูเครน ณ กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยความตกลงฯ นี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของสองประเทศ รวมทั้งเป็นการสร้างเวทีหารือทวิภาคีระหว่างกัน นั่นคือการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) เพื่อเป็นกลไกที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาความร่วมมือและขยายมูลค่าการค้า และสร้างเครือข่ายภาคธุรกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งนี้ ยูเครนเสนอจะเป็นเจ้าภาพการประชุม JTC ครั้งที่ 1 ณ ประเทศยูเครน โดยทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันในรายละเอียดต่อไป

ในปี 59 การค้าระหว่างไทยและยูเครนมีมูลค่าการค้ารวม มูลค่า 665.20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยูเครนเป็นคู่ค้าอันดับ 48 ของไทยในตลาดโลก ไทยส่งออกสินค้าสำคัญ อาทิ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป รถยนต์ และอัญมณีเครื่องประดับ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญ อาทิ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ยุทธปัจจัย สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ