ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.30 อ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค รอดูตัวเลขศก.สหรัฐฯ-จับตาประธานเฟดคนใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 27, 2017 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 33.29 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.28-33.31 บาท/ดอลลาร์

"บาทอ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค แต่ทิศทางวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตาดู คือ การประกาศตัวเลขประมาณการณ์จีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ และความคืบหน้าการเลือก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 33.15-33.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 113.99 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.16 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1633 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1631 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,716.03 จุด เพิ่มขึ้น 7.19 จุด, +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 59,930.36 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,151.08 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า(30 ต.ค.-3 พ.ย.)จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00-
33.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยยังต้องจับตาหลายประเด็นในสัปดาห์หน้า เช่น การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 30-31
ตุลาคม ธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 31 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน ธนาคารกลางอังกฤษในวันที่ 2 พฤศจิกายน

นอกจากนี้ยังมีเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับการเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนใหม่ ขณะที่ประเด็นเรื่องการลดภาษี ของสหรัฐฯ ปัญหาเกาหลีเหนือ ก็อาจสร้างความผันผวนให้ตลาดได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เช่นอัตราการขยายตัวของจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสสามในที่จะประกาศในวันที่ 27 ตุลาคม และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือนตุลาคมในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มสินเชื่อในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า แม้จะมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นจากสินเชื่อ
ธุรกิจรายใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ และโอกาสการฟื้นตัวของสินเชื่อเอสเอ็มอี ประกอบกับความต้อง
การสินเชื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะเพียงพอชดเชยการชะลอตัวที่เกิดขึ้นใน
ช่วง 3 ไตรมาสก่อนหน้าเพียงใด ซึ่งจะบ่งชี้ว่าการขยายตัวของสินเชื่อจะปรับตัวดีขึ้นได้ตามคาด และสอดคล้องกับแนวโน้มอัตราการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่ดีกว่าที่คาดไว้หรือไม่
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ มี
แนวโน้มอ่อนค่าลงในปี 2561 ตามทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลาง
ยุโรป (ECB) โดยอีไอซีมองว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ราว 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี 2561 อ่อนค่าลงจากใน
ปัจจุบันที่ 33.14 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
  • ธนาคารโลกได้เปิดเผยรายงาน "Commodity Markets Outlook" โดยคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก
จะปรับตัวขึ้นอีกในปี 2561 เมื่อประเมินจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันของบรรดาประเทศผู้ส่ง
ออกน้ำมัน โดยคาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2561 จากระดับ 53 ดอลลาร์ในปี
นี้
  • หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ และสำนักข่าวโพลิติโค รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กำลังอยู่ใน
ขั้นตอนการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็งเหลือเพียง 2 คน
คือ นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
  • ทางการสหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 เวลา 19.30 น.
ของวันนี้ตามเวลาไทย และเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น. ของวันนี้ตาม
เวลาไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ