สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับคาดเศรษฐกิจไทยปี 60 ขยายตัวเร่งขึ้นมาที่ 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.6-4.0%) จากคาดการณ์เดิมที่ 3.6% ซึ่งเติบโตจาก 3.2% ในปี 59 ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราสูง โดยปีนี้คาดว่าส่งออกจะมีอัตราการขยายตัว 8.5% และการลงทุนภาคเอกชนที่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง
ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 61 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.3-4.3%) โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการ สศค.ระบุว่า การปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3.8% มาจากสมมติฐานที่เปลี่ยนแปลงใน 4 ด้านหลัก คือ 1.เศรษฐกิจโลกปีนี้คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเป็น 3.7% จากเดิมที่เคยมองไว้ที่ 3.56% โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก 15 ประเทศขยายตัวได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป, จีน, เวียดนาม, มาเลเซีย, ฮ่องกง และสิงคโปร์ เป็นต้น และมีแนวโน้มว่าจะดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 61
แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี, นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก รวมถึงความเสี่ยงจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ และประเทศอื่นๆ ที่อาจจะตามมา
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปี 61 จะขยายตัวได้ 3.59%
2.ราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยคาดว่าเฉลี่ยทั้งปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 51.80 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ระดับ 50.40 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความขัดแย้งในกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน พร้อมมองว่าในปี 61 ราคาน้ำมันดิบดูไบยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเฉลี่ยที่ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากปริมาณความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ขยายเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไป จึงทำให้ราคาน้ำมันในปีหน้ามีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้นจากปีนี้เล็กน้อย
3.ดัชนีราคาส่งออกและนำเข้า ซึ่งพบว่าตัวเลขจริงของปี 60 ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรส่งออก และราคาสินค้าเชื้อเพลิงที่ทั้งส่งออกและนำเข้า จึงได้มีการปรับอัตราการขยายตัวของดัชนีราคาส่งออกปีนี้มาที่ 3.3% จากเดิม 2.8% และดัชนีราคานำเข้ามาที่ 5.3% จากเดิม 4.8% ในขณะที่ปี 61 คาดว่าทั้งดัชนีราคาส่งออกและนำเข้าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ราคาสินค้าหมวดอื่นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
4.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้มีการปรับประมาณการสำหรับปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 35.8 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ 35 ล้านคน เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งฐานต่ำในปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าในปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.86 ล้านล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 1.84 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 61 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะขยายตัวได้ 8% และรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวได้ 12%
ส่วนสมมติฐานที่เหลืออีก 3 ด้านนั้นยังคงไว้ตามเดิมคือ 1.อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยยังคงคาดว่าทั้งปีนี้เงินบาทจะเฉลี่ยที่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากประเทศไทยยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ส่งผลให้เงินบาทยังอยู่ในระดับที่แข็งค่า ส่วนในปี 61 คาดว่าเงินบาทจะยังแข็งค่ากว่าค่าเงินในหลายสกุล โดยทั้งปีหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งต้องจับตาว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือไม่
2.อัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดว่าทั้งปี 60 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าในปี 61 กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% เท่ากับปีนี้
3.รายจ่ายภาครัฐ โดยผลการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 60 สามารถทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ คือมีการเบิกจ่ายประมาณ 92% ในขณะที่คาดว่าในปี 61 รายจ่ายภาครัฐก็ยังคงเติบโต โดยเฉพาะการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
อย่างไรก็ดี การปรับประมาณการ GDP ในปี 60 ใหม่นี้ได้รวมปัจจัยผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดทั่วประเทศไว้แล้ว ส่วนที่คาดการณ์ GDP ในปี 61 ไว้เท่ากับปีนี้ที่ 3.8% นั้นเนื่องจากมองว่าการเติบโตของมูลค่าการส่งออกในปีหน้าจะชะลอลงจากปีนี้ที่มีฐานอยู่ในระดับสูง
"ประมาณการ GDP ปีนี้เราได้รวมผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมไว้แล้ว...และหากจะทำให้ทั้งปีโตได้ 3.8% ตามคาด ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ GDP จะต้องโตไม่ต่ำกว่า 3.8%" นายสุวิชญ ระบุ