สศค.คาดเสนอร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวฯ เข้าครม.ได้ ธ.ค.บังคับใช้ปี 61

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 30, 2017 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ. ... ซึ่งจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ 14 พ.ย.60 โดยคาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป โดยคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 61

สาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว คือ กระทรวงการคลังจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเงินฝากในบัญชีธนาคารของประชาชนที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินกว่า 10 ปีขึ้นไปแทนสถาบันการเงิน และจัดทำระบบการค้นหาข้อมูลออนไลน์ เพื่อสืบค้นเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อให้ประชาชนเจ้าของบัญชีหรือทายาทตามกฎหมายสามารถขอคืนเงินต้นดังกล่าวได้ตลอดเวลาผ่านขั้นตอนกระบวนการที่กำหนด ซึ่งหากไม่มีการจัดทำระบบค้นหาข้อมูลดังกล่าวแล้ว ประชาชนอาจจะหลงลืมหรือไม่ทราบมาก่อนว่ามีเงินจำนวนนี้อยู่ในบัญชีเงินฝาก ซึ่งประชาชนที่ต้องการสืบค้นข้อมูลนี้สามารถติดต่อสอบถามกับสถาบันการเงินเป็นรายๆ ไป

ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า ปัจจุบันจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีเงินฝากในบัญชีธนาคารที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินกว่า 10 ปี รวมกันแล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้นำเงินจำนวนนี้มาเก็บรักษาไว้ให้แทนสถาบันการเงิน อันจะช่วยให้สถาบันการเงินลดภาระในการที่ต้องมีค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นจากที่ได้หารือกับธนาคารพาณิชย์ก็ได้เห็นด้วยกับหลักการนี้

พร้อมยืนยันว่าเงินฝากของประชาชนที่กระทรวงการคลังนำมาเก็บรักษาไว้นั้น จะไม่มีการนำออกไปใช้แต่อย่างใด เป็นแค่การช่วยเก็บรักษาไว้ให้แทนสถาบันการเงินเท่านั้น ซึ่งประชาชนสามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับคืนเงินฝากได้ตลอดไม่จำกัดระยะเวลา แต่หากเป็นกรณีของพันธบัตรรัฐบาลที่ครบอายุการไถ่ถอนเกิน 10 ปีแล้วยังไม่มีการแสดงหลักฐานเพื่อขอไถ่คอนพันธบัตรคืนนั้น ก็จะถูกนำส่งเข้าเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป

"ยืนยันว่าจะไม่มีการนำเงินฝากของประชาชนไปใช้ เป็นแค่การเก็บรักษาไว้ให้แทนธนาคารพาณิชย์ ซึ่งประชาชนสามารถมารับคืนได้ตลอดเวลา แต่ในอนาคตอาจจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้เพื่อการสาธารณประโยชน์ได้" นายสุวิชญระบุ

อย่างไรก็ดี ในต่างประเทศได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะนำเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาบริหารจัดการเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ และกันเงินสำรองอีกส่วนหนึ่งไว้เพื่อคืนให้แก่ประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ