ภาวะตลาดเงินบาท: ปิต 33.15 กลับไปอ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.05-33.18

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 7, 2017 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าสอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค โดยรวมแล้ววันนี้ยังไม่มีปัจจัยเด่นๆ ที่มีผลต่อการ เคลื่อนไหวของเงินบาทมากนัก ในขณะที่วันพรุ่งนี้คาดว่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม คือไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 33.05 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าสุดของปีนี้

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05 - 33.18 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.85/86 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1604 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,712.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 56,758 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 244.18 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นการ
กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ที่ใช้จ่ายในช่วง
วันที่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค.60 จากร้านค้าที่มีใบกำกับภาษีนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี 2560 ได้

ทั้งนี้ การซื้อสินค้าตามมาตราการดังกล่าวต้องเป็นการซื้อสินค้าพื่อใช้ภายในประเทศหรือบริการเพื่อใช้ภายในประเทศ เท่านั้น และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แต่สินค้านั้นไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ำมัน ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ และการบริการนั้น ไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ซึ่งจะต้องมีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีเต็มแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า มาตรการช็อปช่วยชาติรอบใหม่จะช่วยกระจายรายได้ไปให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้า และ
ภาคเกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดราว 5-6 พันล้านบาท
  • กระทรวงการคลัง รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 มีจำนวน 6,369,331.31 ล้าน
บาท หรือคิดเป็น 42.29% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 4,959,164.41 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 970,216.31 ล้านบาท
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 426,321.04 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 13,629.55 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 94,480.81 ล้านบาท
  • ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ โดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้อนุมัติการอายัด
ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและบุคลากรมากกว่า 35 ราย เพื่อเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงสู่โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลี
เหนือ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้อนุมัติมาตรการดังกล่าวหลังจากที่เห็นพ้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ในการเพิ่ม
มาตรการกดดันเกาหลีเหนือสู่ระดับสูงสุด
  • กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งจีน เตรียมยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน เพื่อปกป้องผล

ประโยชน์ของชาติและกำจัดความเสี่ยงทางการเงิน โดยจะมุ่งเน้นอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย แวด

วงการเงินออนไลน์ หลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และสถาบันการเงิน ทั้งนี้ มาตรการปราบปรามดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากทางการ

จีนต้องการกวดขันระเบียบกำกับดูแลและควบคุมการดำเนินการที่เข้าข่ายเสี่ยงและไม่ชอบด้วยกฎหมายในแวดวงการเงิน โดยเมื่อปีที่

ผ่านมา ทางการจีนได้จับกุมธนาคารใต้ดินกว่า 380 ราย คิดเป็นวงเงินกว่า 9 แสนล้านหยวน และจับกุมผู้ต้องสงสัยอีกหลายร้อยราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ