SCB EIC - BAY คาดกนง.คงดอกเบี้ยต่อเนื่องถึงปี 61 มองศก.ไทยเติบโตดีต่อเนื่อง แนะจับตาบาทผันผวนสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 8, 2017 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อเนื่องถึงปี 2561 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวแบบไม่ทั่วถึง สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป แม้จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย อีกทั้งความไม่แน่นอนของปัจจัยที่จะช่วยผลักดันอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ เช่น ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองต่อราคาน้ำมันดิบ และผลของมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่อค่าจ้าง

สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี น่าจะมีผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าผลกระทบอาจลดน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนในระยะต่อไป การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงมีแรงต้านจากการบริโภคที่ยังคงขยายตัวอย่างช้าๆ ปัญหาหนี้สูง และความเสี่ยงจากการเมืองในประเทศ

โดยวันนี้ ที่ประชุม กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% และประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว ด้านการบริโภคภาคเอกชนเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ส่งผ่านได้อย่างทั่วถึง รายได้ของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจึงยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน รวมทั้งกลุ่ม SMEs อาจยังไม่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ด้านการลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ขณะที่การลงทุนภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับเศรษฐกิจแม้ชะลอลงบ้าง

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้นเล็กน้อยตามราคาอาหารสดและราคาพลังงานที่ทยอยปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิต รวมถึงผลกระทบจากมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่อาจมีต่อค่าจ้างแรงงานในระยะข้างหน้า

เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวจากการประชุมครั้งก่อน ส่วนเงินบาทเทียบกับสกุลคู่ค้าคู่แข่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับในระยะข้างหน้า อัตราแลกเปลี่ยนจะยังมีแนวโน้มผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก โดย กนง. มองว่าควรติดตามสถานการณ์ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด

กนง. มองเศรษฐกิจไทยยังเสี่ยงจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อาทิ ผลกระทบจากมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐฯ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์

ด้านกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีความเห็นต่อผลการประชุมกนง. กรณีมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ครั้งที่ 20 ติดต่อกัน โดยหลังการประชุม กนง.ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวเล็กน้อยและซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 33.13 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปีเงินบาทแข็งค่าขึ้น 7.3% ด้วยปัจจัยหนุนจากยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด

คณะกรรมการ กนง.มีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่อง โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่อุปสงค์ในประเทศขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องและอัตราแลกเปลี่ยนยังมีเสถียรภาพ แถลงการณ์ของ กนง.วันนี้ระบุว่าภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) อาจยังไม่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ กนง.ยอมรับว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้นเล็กน้อย แต่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังต่ำ ขณะที่ความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างอาจส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นช้ากว่าในอดีต และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเข้าสู่เป้าหมายในช่วง 1.0-4.0% ในกลางปี 2561

คณะกรรมการ กนง.มีกำหนดประชุมรอบถัดไปเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 20 ธันวาคม 2560 โดยในวันนี้ กนง.มีมุมมองที่แสดงถึงจุดสมดุลจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ค่าเงินจะมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า กนง. น่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในอีก 2-3 ไตรมาสหน้า และวัฎจักรการคุมเข้มนโยบายการเงินน่าจะเริ่มในช่วงปลายปี 2561


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ