(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.59/60 ตลาดจับตาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 13, 2017 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.59/60 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.60/61 บาท/ดอลลาร์

วันนี้บาทคงเคลื่อนไหวได้ไม่มากนัก และทรงตัวอยู่ในระดับนี้มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้ว ในขณะที่ sentiment ของสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างจะแข็งแกร่ง คาดว่าคงไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์อย่างแน่นอน โดยระหว่างนี้นักลงทุนยังรอ ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เพื่อดูการประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ปี 2018 ว่า FOMC จะยังคงแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งภายในปีหน้าหรือไม่

"ถ้าดูจาก movement ของ spot ในตอนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าในวงกว้าง คงเพราะนักลงทุนมั่นใจว่า FOMC จะขึ้น ดอกเบี้ยในรอบนี้แน่นอนอีก 0.25% แต่หากปรับขึ้นจริง เชื่อว่าจะไม่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเพิ่มขึ้นไปมากนัก เพราะตลาดรับข่าวนี้ไป เยอะแล้ว คงรอดูว่า FOMC จะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าที่เคยพูดไว้ว่าจะขึ้นถึง 3 ครั้งหรือไม่" นักบริหาร เงินระบุ

ขณะเดียวกันนักลงทุนเริ่มมีมุมมองที่ positive ต่อแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ โดยเชื่อว่ารัฐสภาสหรัฐจะมีข้อตกลงร่วมกัน ได้ และน่าจะเห็นข่าวดีในสัปดาห์หน้าเรื่องการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (12 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.82122% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (12 ธ.ค.)อยู่ที่ระดับ 1.16700%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.5792 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.44 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.45/46 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1743 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1782 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6010 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุมัติคิวอาร์โค้ดให้ธนาคารอีก 3 แห่งเพิ่ม กรุงศรีเลือกทำตลาดบริษัทใหญ่ ตั้ง
เป้าเฟสแรก 2-3 หมื่นร้านค้า
  • บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN บริษัทในเครือของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส นำเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz งวด ที่ 2 จำนวน 10,963.755 ล้านบาท (รวมภาษี
มูลค่าเพิ่ม) พร้อมกับหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินเพื่อค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือวงเงิน
10,963.755 ล้านบาท มอบให้แก่สำนักงาน กสทช. โดย เงินค่าประมูลดังกล่าวจะนำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่น
ดินต่อไป
  • ไลท์คอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน
วันนี้ และทะยานขึ้นเกือบ 5,800% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ มากกว่าการพุ่งขึ้น 1,600% ของบิตคอยน์ ทั้งนี้ ไลท์คอยน์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็น
ประวัติการณ์ที่ระดับ 255.42 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากอยู่ที่ระดับ 4.36 ดอลลาร์ในวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งเทียบเท่ากับการพุ่งขึ้น
5,758.20% ขณะนี้ไลท์คอยน์มีมูลค่าตลาด 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับระดับ 2.828 แสนล้านดอลลาร์ของบิตคอยน์
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดย
ได้เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกัน 3 เดือน
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) ด้วย
แรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งช่วยสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) โดยได้รับปัจจัยกด
ดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำนิวไฮติดต่อกันหลายวัน ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการ
ถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น
  • นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย.
  • นักลงทุนยังจับตาการแถลงนโยบายการเงินหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะ
ขึ้นกล่าวในฐานะประธานเฟดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า
  • นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.,
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
(PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต และ
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนธ.ค.จากเฟด
นิวยอร์ก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ