SAM เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้าร่วมคลีนิกแก้หนี้ได้ หวังขยายฐานช่วยรายย่อย เริ่ม 1 ม.ค.61

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 19, 2017 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เปิดตัวคลินิกแก้หนี้ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการผ่าน Call Center เว็บไซต์ และสาขาของ SAM รวมทั้งสิ้นกว่า 55,400 ราย จากการสัมภาษณ์ลูกหนี้ เราพบว่าลูกหนี้ให้ความสนใจโครงการคลินิกแก้หนี้ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ลูกหนี้แต่ละคนมีต่อธนาคาร หลายแห่งได้ในคราวเดียวกัน ผ่อนสูงสุดได้ถึง 10 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำ ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้มาก

อย่างไรก็ดี ด้วยข้อจำกัดด้านคุณสมบัติและเงื่อนไขต่างๆ ของโครงการแม้ว่าจะมีลูกหนี้ติดต่อเข้ามาจำนวนมากราย แต่ปริมาณผู้เข้าร่วมโครงการจนถึงขั้นทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้ ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายเท่าที่ควร จากการวิเคราะห์ พบว่าลูกหนี้ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพราะติดข้อจำกัดด้านคุณสมบัติ เช่น ลูกหนี้ประกอบอาชีพอิสระ ลูกหนี้ถูกดำเนินคดีแล้ว เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ SAM จึงได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ พิจารณาปรับปรุงคุณสมบัติของลูกหนี้ที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยวันที่ 1 มกราคม 2561 จะเริ่มเปิดรับกลุ่มลูกหนี้รายย่อยซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาทั้งที่มีรายได้ประจำ และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้ไม่ประจำ หรือ รายได้อื่น ให้สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ให้ตรงตามข้อเท็จจริง เนื่องจากลูกหนี้บางรายมีชื่อเป็นผู้กู้ เช่น กู้ซื้อมอเตอร์ไซค์ แต่ข้อเท็จจริงพบว่าบิดามารดาเป็นผู้ผ่อนชำระแทน กรณีนี้ถ้าลูกหนี้มีหลักฐานมายืนยัน ลูกหนี้ก็อาจจะอยู่ในข่ายที่มีความสามารถในการชำระหนี้และเข้าร่วมโครงการได้

นางฐิติมา กล่าวว่า คลินิกแก้หนี้เป็นโครงการดีที่เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่สุจริตและมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากแก้ไขปัญหาสามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีให้อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ตามกำลังความสามารถในการชำระหนี้จริง ควบคู่กับการให้คำปรึกษาหารือเรื่องภาระหนี้สิน หรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับความรู้ทางการเงินเพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ