ภาวะตลาดเงินบาท: วันสุดท้ายของปี 32.59 หลังเปิดปีใหม่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าจากเม็ดเงินไหลเข้า มองกรอบ 32.50-32.60

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 29, 2017 16:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.59 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดเช้าอยู่ที่ระดับ 32.68 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.59-32.72 บาท/ดอลลาร์

"หลังตลาดเปิดใหม่ตอนเช้าก็ขึ้นไปอยู่ที่ 32.72 จากแรงซื้อดอลลาร์ แต่เข้าใจว่าแรงซื้อดอลลาร์จากผู้นำเข้าน่า จะหมดแล้ว" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เมื่อเปิดทำการหลังหยุดยาวนักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาในตลาด เงินบาทก็จะมีโอกาสแข็งค่า คาด ว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.6050 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.52 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 112.77 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1966 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1940 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ย.ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีตามการส่ง
ออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูง สอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุน
ภาคเอกชนที่ขยายตัว ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัว สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวดีทั้งรายจ่ายประจำและราย
จ่ายลงทุน
  • รายงานนโยบายการเงิน ประจำเดือนธันวาคม 2560 ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัว
ชัดเจนต่อเนื่องมากขึ้น โดยเฉพาะแรงส่งภาคต่างประเทศ ในขณะที่ยังต้องติดตามความเข้มแข็งของอุปสงค์ในประเทศและกำลังซื้อ
ของภาคครัวเรือน พัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย รวมถึงการสะสมความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการ
เงินบางจุด ทำให้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการดูแลให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืนเพื่อบรรลุ
เป้าหมายด้านเสถียรภาพราคา และการรักษาเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ โดยคณะกรรมการฯ ได้คำนึงถึงผลบวกและผลลบ
ของแต่ละทางเลือกนโยบายอย่างรอบด้าน และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% เนื่องจากเห็นว่านโยบาย
การเงินที่ผ่อนคลายยังมีความจำเป็น เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างเข้มแข็ง และเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับ
ปัจจุบันยังมีความเหมาะสม โดยเอื้อให้ภาวะการเงินอยู่ในระดับผ่อนคลายเพียงพอที่จะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการปรับ
เพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 61
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2561 ครั้งที่ 1 วงเงิน 15,000 ล้านบาท ซึ่งเปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ว่า ขณะนี้จำหน่ายได้
ครบตามวงเงินที่ประกาศแล้ว

อย่างไรก็ดี เนื่องจากยังมีความต้องการซื้อจากประชาชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงเห็นชอบให้จัดสรรวงเงิน จำหน่ายเพิ่มเติมจำนวน 3,000 ล้านบาท ตามรุ่นอายุและอัตราดอกเบี้ยเดิม คือเป็นพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) รุ่น อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.85% และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.45% จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 30 มีนาคม 2561

  • กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 1 ราย ได้แก่ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (NN2PC)
ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2561 โดยมีเงื่อนไขให้ใช้เงินที่ได้รับจากการออก
พันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดโทรคมนาคมแบบไร้สายโดยรวมในปี 61 ยังคงมีทิศทางการขยายตัวที่ชะลอตัวลง
โดยมีสาเหตุหลักมาจากสภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาด โดยเฉพาะการแข่งขันในด้านราคาสำหรับการใช้บริการสื่อสารข้อมูล
(Data) ต่อเมกะไบต์ที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
  • แถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนจะสามารถนำเงินสำรองที่ฝากไว้กับธนาคารกลางออก
มาใช้ได้ 2% เป็นเวลา 30 วันเพื่อชดเชยภาวะขาดแคลนสภาพคล่องที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะตรง
กับวันที่ 16 ก.พ.ปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ