(เพิ่มเติม) ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค.อยู่ที่ 79.2 สูงสุดในรอบ 35 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 4, 2018 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.60 อยู่ที่ 79.2 จาก 78.0 ในเดือน พ.ย.60 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 66.2 จาก 65.2 ในเดือน พ.ย.60 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 74.0 จาก 72.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 97.5 จาก 96.1

สำหรับปัจจัยบวก ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ต่อปี, กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปี 60 จากขยายตัว 3.8% เป็น 3.9%, ยอดส่งออกเดือน พ.ย.60 ขยายตัว 13.36%, ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง, เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย และรัฐบาลออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภค (ช็อปช่วยชาติ)

ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ราคาพืชผลทางการเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ, ผู้บริโภคยังกังวลปัญหาค่าครองชีพ และความกังวลสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมในเดือน ธ.ค.60 ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 จะส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความมั่นใจในการบริโภคสินค้าและบริการมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งน่าจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างเด่นชัดขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 2 ของปี 61 และเป็นปัจจัยที่ช่วยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในระดับ 4.2-4.5%

อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.ที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ในภาพรวมแล้วยังเป็นความเชื่อมั่นที่มาจากคนชั้นกลางเป็นส่วนใหญ่ที่รู้สึกว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ขณะที่คนฐานรากยังมีกำลังซื้อที่ไม่โดดเด่นนัก เพราะยังมีปัญหาเรื่องค่าครองชีพ และเผชิญกับราคาสินค้าเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทั้งข้าว และยางพารา ซึ่งเป็นเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

"คนชั้นกลางรู้สึกว่าเศรษฐกิจปรับตัวดี เพราะเม็ดเงินอยู่ในมือมากขึ้น จากทั้งตลาดหุ้น การส่งออก การท่องเที่ยว จึงทำให้เริ่มกล้าจะจับจ่ายใช้สอย แต่เงินในส่วนนี้ยังอยู่ในระดับบนไม่กระจายลงไประดับฐานราก" นายธนวรรธน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ