พาณิชย์ แนะผู้ส่งออกนมผงออร์แกนิคไทยศึกษาขยายตลาดไปจีนหลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มขยายตัวสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 10, 2018 11:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว รายงานว่า ได้สำรวจตลาดสินค้านมผงออร์แกนิคในประเทศจีน พบว่า มีแนวโน้มการขยายตัวสูงมาก เพราะตลาดนมผงเด็กซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ทำให้คุณแม่ชาวจีนยุคใหม่ยอมจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อซื้อนมผงเด็กออร์แกนิคมาใช้เลี้ยงทารก ทำให้ตลาดมีการขยายตัวสูงมาก จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออกนมผงของไทยที่จะศึกษาโอกาสในการขยายตลาดส่งออกเข้าไปยังตลาดจีน

ปัจจุบันการผลิตนมออร์แกนิคในไทยเริ่มมีการผลิตแล้วแต่ยังไม่มากนัก เนื่องจากการปรับพื้นที่ฟาร์มเดิมให้เปลี่ยนเป็นฟาร์มออร์แกนิคต้องอาศัยระยะเวลา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในช่วงเริ่มต้น แต่ในระยะยาว ฟาร์มออร์แกนิคจะช่วยลดต้นทุน และมีโอกาสในการขยายตลาด โดยในส่วนของการขยายตลาดจีน กรมฯ มองว่ามีโอกาสสูงมาก ซึ่งภาครัฐและเอกชนจะต้องช่วยกันยกระดับคุณภาพนมไทย โดยเฉพาะนมออร์แกนิคให้สามารถส่งออกมายังตลาดจีนได้

"สินค้าอินทรีย์หรือสินค้าออร์แกนิคในตลาดจีนกำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดนมที่มีการเติบโตสูงมาก จากการที่คุณแม่ชาวจีนให้ความสำคัญกับนมที่จะนำมาเลี้ยงทารกและเด็กที่ต้องปลอดภัย มีคุณภาพสูง และที่สำคัญผลจากการที่จีนได้เลิกนโยบายลูกคนเดียว จากสถิติของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน พบว่า ในช่วง 5 เดือนของปี 2560 มีทารกเกิดใหม่ถึง 7.4 ล้านคน โดยลูกคนที่ 2 ครองสัดส่วนถึง 57.7% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13% ซึ่งล้วนแต่เป็นโอกาสสำหรับการขยายตลาดส่งออกนมผงและผลิตภัณฑ์นมของไทยเข้าสู่ตลาดจีน" นางจันทิรา กล่าว

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับตลาดนมผงออร์แกนิคของจีนในปัจจุบัน มีแบรนด์นมผงออร์แกนิคมากขึ้น และมีการแข่งขันในด้านคุณภาพระหว่างแบรนด์มากขึ้น โดยเฉพาะนมผงยี่ห้อ GITTIS จากออสเตรเลียที่กำลังได้รับความนิยม เพราะในการผลิตได้เลือกทุ่งหญ้าสำหรับใช้เลี้ยงวัวที่ไม่ปนเปื้อนสารเคมี ปราศจากสารกำจัดศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี และสารกำจัดวัชพืชไม่ต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งตามมาตรฐานออร์แกนิคสามารถใช้ทุ่งหญ้าที่ไม่มีสารเคมีมาก่อนในระยะเพียง 3 ปี และวัวยังได้รับการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม โดยวิถีธรรมชาติ ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ปราศจากฮอร์โมน

ขณะเดียวกัน นมผงยี่ห้อดังกล่าวยังได้เน้นการพัฒนาด้านนวัตกรรมและรูปแบบผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิค เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยนอกจากความพิถีพิถันในการเลี้ยงวัว ยังมีความเข้มงวดในขบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุดิบจะต้องมาจากระบบเกษตรอินทรีย์หรือผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่เก็บมาจากป่าปลอดสารพิษ และกระบวนการผลิตทั้งหมด ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน เช่น การบรรจุ การเก็บรักษา และการขนส่ง โดยผู้ผลิตจะมีการติดตาม ตรวจสอบอยู่เสมอ รวมถึงบันทึกการจำหน่าย จนกระทั่งผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบและได้รับตรารับรอง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2561 อุตสาหกรรมนมผงออร์แกนิคในตลาดจีน จะยังได้รับความนิยมและขยายตัวอีกมาก เนื่องจากนโยบายลูกคนที่ 2 ของจีน ทำให้ผู้บริโภคจีนยิ่งต้องการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและดีที่สุดให้กับลูก เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากข่าวสารปนเปื้อนในนมผงเด็กที่ผลิตในประเทศอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นโอกาสดีของนมผงออร์แกนิคที่จะเข้ามาตีตลาด และนมผงนำเข้าจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยของตน

ทั้งนี้ในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2560 ไทยมีการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นม มีมูลค่ากว่า 6,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า มีตลาดส่งออกหลักเป็นประเทศแถบอาเซียน ได้แก่ อันดับ 1.กัมพูชา (ร้อยละ 21) 2.ฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 17 ) 3.สิงคโปร์ (ร้อยละ 16 ) 4.ลาว (ร้อยละ 13) 5.เมียนมา (ร้อยละ 8) โดยจีนนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นมจากไทย ในลำดับที่ 8 ในช่วง 11 เดือน มีมูลค่า 253 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ