พาณิชย์ เร่งขยายตลาดส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมในภูมิภาคอาเซียนและจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 12, 2018 11:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลัง นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยและคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทย ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้จัดเวทีสัญจรลงพื้นที่พบปะหารือกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สหกรณ์โคนม และผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มอุตสาหกรรมโคนม ระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังความเห็นและความต้องการของเกษตรกรในเขตภาคเหนือ รองรับการเปิดเสรีความตกลง FTA ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากไทยต้องเปิดตลาดให้กับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ทุกรายการ โดยยกเลิกมาตรการกำหนดปริมาณนำเข้าและลดภาษีนำเข้าเป็นร้อยละ 0 ในปี 2564 และปี 2568 กระทรวงฯ ได้มอบกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโคนมในภูมิภาคอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ดังกล่าว ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะสัญจรลงพื้นที่ภาคกลางที่จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 29-30 ม.ค.61 และมีกำหนดจะไปที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงเดือน ก.พ.61

สำหรับการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยในปี 2559 มีมูลค่าถึง 1,263.5 ล้านเหรียญสหรัฐเติบโตถึงร้อยละ 14.5 จากปีก่อนหน้า สินค้าส่งออกศักยภาพ ได้แก่ นมปรุงแต่งยูเอชที โยเกิร์ต บัตเตอร์มิลค์ และนมข้นหวาน โดยมีตลาดอาเซียนและจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญ และยังเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก กระทรวงฯ จึงมีแผนจะนำผู้ประกอบการนมและผลิตภัณฑ์ของไทยที่มีความพร้อมและแสดงความสนใจจากการลงพื้นที่ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ไปโรดโชว์เปิดตลาดในงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2018 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจัดในภูมิภาคอาเซียนและจีน ตลอดปี 2561 และพร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อหาช่องทางการทำตลาดให้นมไทยเป็นที่รู้จัก

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ มีนโยบายต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมในภูมิภาคอาเซียนและจีน เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมโคนมไทยได้มีการพัฒนาและปรับตัวไปมาก เน้นการผลิตนมที่มีคุณภาพและมาตรฐานเข้าสู่ตลาด รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ต เนย ชีส ไอศครีม ไทยจึงไม่ควรเป็นฝ่ายตั้งรับอีกต่อไป ต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาส รุกตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ CLMV และจีน โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน และ FTA อาเซียน-จีน ที่ได้เปิดตลาดให้กับไทยโดยการยกเลิกภาษีนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นมเหลือร้อยละ 0 ซึ่งตนเองเห็นว่าการขยายการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น จะช่วยเพิ่มปริมาณความต้องการน้ำนมโคดิบจากเกษตรกรในประเทศ นอกเหนือจากการผลิตเพื่อป้อนโครงการนมโรงเรียนของภาครัฐ

ทั้งนี้ ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยได้กล่าวขอบคุณที่กระทรวงพาณิชย์ได้เห็นความสำคัญของสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของเกษตรกรไทย โดยจะช่วยผลักดันการส่งออกและหาช่องทางการตลาดให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งสินค้านมเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรไทยจำนวนมาก อีกทั้งเป็นอาชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งต้องการให้ภาครัฐส่งเสริมให้คงอยู่จากรุ่นสู่รุ่นและมุ่งสร้างรากฐานให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีความเข้มแข็ง เติบโตอย่างมั่นคง และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเร่งรัดผลักดันการใช้เครื่องหมายการค้า “Smile Milk" เป็นแบรนด์กลางสำหรับผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์โคนมทั่วประเทศเพื่อให้สามารถจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ