รมว.พาณิชย์ มอบนโยบายสถาบัน GIT เพิ่มศักยภาพและขยายตลาดเพื่อยกระดับอุตฯอัญมณี-เครื่องประดับไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 19, 2018 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวในการมอบนโยบายการดำเนินงานด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) ว่า ได้มอบให้สถาบัน GIT เป็นหน่วยงานกลางในการบูรณการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ในการยกระดับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับอัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศไทย-ในต่างประเทศ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานพลอยสี เช่น ทับทิมและไพลิน สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าพลอยสีชั้นนำของโลก หวังผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าพลอยสีชั้นนำของโลก

นอกจากนี้ ยังได้ให้สถาบัน GIT เร่งจัดทำแผนการดำเนินงานให้สอดรับกับแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2561 ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพและสร้างตลาดให้กับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับให้เป็นสากล และเพิ่มช่องทางการตลาด การสร้างภาพลักษณ์ (Country Image) ของประเทศไทยเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลก และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคทั้งเรื่องคุณภาพมาตรฐานการพัฒนาการตลาดยุคใหม่ผ่านระบบออนไลน์ (Digital Marketing/ E- Commerce) การเพิ่มขีดความสามารถวิจัยและนวัตกรรมด้านอัญมณีและเครื่องประดับอย่างครบวงจร รวมถึงการเป็นหน่วยงานกลางอย่างมืออาชีพในการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งบูรณาการรับกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงาน และการลงไปช่วยพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคต่างๆ ให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับโครงการเด่นๆ ที่มอบหมายให้สถาบัน GIT ดำเนินการเร่งด่วน ในปี 2561 อาทิ 1. การพัฒนาผู้ประกอบการใน 6 ภูมิภาค โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ เห็นความสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยมอบหมายให้สถาบันทำการลงพื้นที่ ดำเนินงานและติดตามประเมินผล ตามแผนการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในส่วนภูมิภาค สถาบันฯ ส่งทีมงานลงพื้นที่ติดตามใกล้ชิด เริ่มจากตำบลด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ด้านอัญมณีและเครื่องประดับ อาทิ สุโขทัย น่าน เชียงใหม่ สุรินทร์ จันทบุรี ตราด และเพชรบุรี

ทั้งนี้ เพื่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับสามารถผลิตและออกแบบสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และตรงความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ โดยต่อจากนี้ให้สถาบันฯ เร่งออกแบบและจัดทำหลักสูตรด้านอัญมณีและเครื่องประดับที่ให้ความรู้ แบบครบวงจรทั้งด้านการผลิต การออกแบบทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติจริง โดยเน้นให้ผู้เรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ ผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จะถูกนำมาจัดแสดงและจำหน่ายใน Museum Gallery และ Gallery Shop ของสถาบัน รวมทั้งให้ประสานกับกรมพัฒนาธุรกิจฯ เพื่อต่อยอดด้านการบริหารจัดการ E-Commerce และประสานกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้านการตลาดอย่างเป็นระบบ รวมทั้งประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอัญมณีและเครื่องประดับต่อไปอย่างยั่งยืน

2. Gems & Jewelry Training Institute เน้นให้สถาบันที่เน้นการเรียนการสอนทั้งด้านเทคนิค การผลิต การออกแบบ และการสร้างแบรนด์ และยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเจียระไนเพชร พลอยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยสอนตั้งแต่ระดับช่างฝืมือ พนักงานขาย ไปจนถึงผู้ประกอบการ

3. แผนยกระดับคุณภาพและมาตรฐานโลหะมีค่า เช่น ทอง เงิน แพลทินั่ม ฯลฯ โดยวิธีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่า และการนำระบบ Hallmark มาใช้ในประเทศไทยโดยการสมัครใจ พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการภายในประเทศเพื่อเพิ่มคุณภาพในตัวเครื่องประดับ ซึ่งจะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกเครื่องประดับมากยิ่งขึ้น Hallmark เป็นตราสัญลักษณ์ที่ตอกหรือประทับลงบนสินค้า เพื่อแสดงค่าความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่า เป็นมาตรการสากลที่สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อตราที่ประทับนี้ประกอบไปด้วยตราหน่วยงานกลาง ซึ่งก็คือ GIT, ตราความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่า และตราของผู้ผลิต

4. การรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับทั่วประเทศ ว่าแต่ละ Cluster มีจำนวนผู้ผลิต ผู้ค้าเท่าใด อยู่ที่ไหนบ้าง เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางของประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากจันทบุรีก่อนเพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพื่อจัดให้เป็น 1 ในเส้นทางการท่องเที่ยวอัญมณีและเครื่องประดับของไทย

"ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการรวบรวมปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ- ปลายน้ำ เพื่อนำเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อหาแนวทางการแก้ไข และเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" รมว.พาณิชย์ ระบุ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกเสียส่วนใหญ่ราว 80% โดยสถานการณ์ส่งออกของประเทศในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560 ที่ผ่านมาสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 3 ของประเทศ คิดเป็น 5.55% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าโดยรวม มีมูลค่าส่งออกรวม 12,039.02 ล้านเหรียญสหรัฐ (409,237.62 ล้านบาท) ปรับตัวลดลง 10% ขณะที่มูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำขยายตัวได้เกือบ 2% และมีการส่งออกทับทิมด้วยมูลค่า 339 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 28% จากปี 2559 ส่วนไพลิน มีมูลค่าส่งออก 316 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตได้เกือบ 20% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการส่งออกไทย ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมา ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอันดับ 13 ของโลก และคาดว่าในปี 2561 และ 2562 มีแนวโน้มที่จะส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับได้เพิ่มมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ