ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.55 ระหว่างวันผันผวนก่อนกลับมาแข็งค่า มองกรอบพรุ่งนี้ 31.50-31.70 จับตาตลาดหุ้นตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 6, 2018 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 31.63 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.49-31.71 บาท/ดอลลาร์ ตามแรงซื้อขาย ดอลลาร์

"เงินบาทค่อนข้างผันผวน ระหว่างวันลงไปแข็งค่าสุดที่ 31.49 หลังมีแรงเทขายทำกำไร และอ่อนค่าสุดที่ 31.71 ตาม แรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.50-31.70 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทวันพรุ่งนี้คงต้องรอดูสถานการณ์ตลาดหุ้นในต่างประเทศคืนนี้ก่อนว่าดัชนีจะร่วงรุนแรงต่อเนื่องหรือไม่" นัก

บริหารเงิน กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.12 เยนต่อดอลลาร์ฯ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.56 เยนต่อดอลลาร์ฯ
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.2401 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2376 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,788.43 จุด ลดลง 21.89 จุด, -1.21% มูลค่าการซื้อขาย 124,498.18 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,220.15 ล้านบาท(SET+MAI)
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก ยังยืนยันเป้าการส่งออกไทยปี 61 เติบโตได้
5.5% แต่คาดการณ์ว่าผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ อาจส่งผลให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก
ประมาณ 5,000 ล้านเหรียญฯ (อัตราแลกเปลี่ยนที่ 33 บาท/ดอลลาร์) คิดเป็น 1.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้
การเติบโตของการส่งออกลดลงเหลือ 3.5%
  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ยังคงกรอบประมาณการเศรษฐกิจและการส่งออกในปี
61 ไว้ตามเดิม โดยประเมินว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในนี้จะอยู่ในกรอบ 3.8-4.5% ขณะที่คาดว่าการส่งออก
จะขยายตัว 3.5-6.0% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.1-1.6% โดย กกร. เห็นว่ายังมีแรงส่งของการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
จากปี 2560 แต่จะติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทเพื่อประเมินผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงต่อไปอย่างใกล้ชิด
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. …. ตามที่
กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญในเรื่องการเงินระดับฐานราก อันจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ลด
จำนวนหนี้นอกระบบ และก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องมีสถาบันการเงินประชาชนอย่างน้อยตำบลละ 1-2
แห่ง หรือรวมแล้วประมาณ 3,500-7,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่นราว 20-30 ล้านคนให้เข้า
ถึงบริการการเงินที่ดีขึ้นได้
  • ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมองการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 61 จะเติบโต 3.4%
หรือสูงสุดในรอบ 8 ปี จากปัจจัยบวกที่มาจากหลายภูมิภาคทั่วโลก เช่น นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลดภาษีในสหรัฐฯ
เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามรอบระยะเวลาในยุโรป การปรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจีน และกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในกลุ่ม
ตลาดเกิดใหม่

ด้านเศรษฐกิจไทยในปี 61 คาดว่าจะเติบโตได้ 3.8% จากปัจจัยการขยายตัวของภาคการส่งออกไทย และการลงทุน โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในประเทศ

  • ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) เตรียมออกและเสนอขายตราสารด้อยสิทธิ ครั้งที่ 1/2561 อายุ 10 ปี 6 เดือน ครบ
กำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 โดยธนาคารมีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดได้หลังจาก 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสาร หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคา 1,000 บาทต่อหน่วย มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน 100,000 บาท และทวีคูณของ 10,000 บาท และมูลค่าจองซื้อ
ขั้นต่ำสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุของตรา
สาร
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี เผยความเชื่อมั่น SME ด้านรายได้ในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเกือบทุกภูมิภาค รับ
อานิสงส์กำลังซื้อและเศรษฐกิจในประเทศฟื้น แม้ผลรวมดัชนีเชื่อมั่น SME ลดลง จากต้นทุนพลังงานและค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น
กระทบความเชื่อมั่นด้านต้นทุน แต่ผลสุดท้ายอาจกระทบกำไรเพียงประมาณร้อยละ 1
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสเรียก
ร้องให้ระบุวันเลือกตั้งที่ชัดเจนว่า ได้ระบุไปแล้วก่อนหน้านี้ถึงวันเลือกตั้งที่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อมีกฎหมายลูกออกมาบังคับใช้
แล้วก็จะมีการกำหนดวันเลือกตั้งตามมา แต่ขณะนี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่มาของ ส.ส.และ ส.ว.ยังอยู่ในกระบวนการ และเมื่อทุก
ฝ่ายมีความพร้อมก็ต้องมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยจะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่
ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ