กพท. คาดออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ได้ครบภายใน เม.ย.61

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 8, 2018 18:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ บริษัท CAA International Limited (CAAI) สหราชอาณาจักร โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เป็นประธานว่า จากการติดตามความก้าวหน้าในการตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re-certification) ซึ่งกพท.ได้ว่าจ้าง CAAI เป็นที่ปรึกษาช่วยดำเนินการ ล่าสุดยังเหลือสายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศอีก 6 สาย จากทั้งหมด 20 สายที่เข้าสู่กระบวนการ Re-AOC ซึ่งคาดว่าจะสามารถ Re-AOC ได้ครบทั้งหมดภายในเดือน เม.ย.61

โดยขณะนี้ได้เตรียมการ Re-AOC สายการบินภายในประเทศ 4 สาย และเครื่องประเภทเฮลิคอปตอร์ 6 สาย ซึ่ง กทพ.จะดำเนินการเอง โดยในส่วนของเฮลิคอปเตอร์นั้น เดิมจะประยุกต์เกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบจากที่ใช้กับสายการบินระหว่างประเทศ แต่เห็นว่าควรกำหนดหลักเกณฑ์ตรวจสอบเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เป็นการเฉพาะ จึงได้ขอให้ CAAI ช่วยจัดทำเกณฑ์คู่มือในการตรวจเพื่อ Re-AOC ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งตามแผนจะดำเนินการตรวจสอบสายการบินภายในประเทศและเฮลิคอปเตอร์ให้แล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.61

นายจุฬา กล่าวว่า ขณะนี้ กพท. ได้เตรียมว่าจ้าง CAAI เพิ่มเติม วงเงินประมาณ 48 ล้านบาท เพื่อให้ CAAI เป็นที่ปรึกษาในการยกร่างกฎหมายลูกที่ใช้ประกอบ พ.ร.บ.การบินพลเรือน พ.ศ. ... ซึ่งเป็นกฎหมายแม่ที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอขอความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงจาก พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ฉบับเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายข้อบังคับขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และมีความทันสมัย

ทั้งนี้ จากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ตรวจพบประเทศไทยมีข้อบกพร่องจำนวน 572 ข้อ ซึ่งที่ผ่านมาได้แก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns: SSC) จำนวน 33 ข้อ และ ICAO ได้ปลดธงแดงจากประเทศแล้วนั้น ข้อบกพร่องที่เหลือประมาณ 500 ข้อจะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งการปรับแก้และจัดทำกฎหมายลูกเพื่อใช้ประกอบนั้น จะเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องที่ ICAO ตรวจพบในส่วนที่เหลือ

"ในเดือนก.ย.61 จะแจ้ง ICAO เข้ามาตรวจซ้ำเพื่อประเมินมาตรฐานการบินของไทย (ICVM) และคาดว่า ICAO จะเข้ามาตรวจในช่วงเดือนพ.ย.61 หากผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 500 กว่าข้อ จะทำให้มาตรฐานการบินของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ ICAO กำหนดที่ 60% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่ถูกธงแดง มาตรฐานการบินของไทย จะอยู่ที่ประมาณ 34% หลังปลดธงแดง มาตรฐานปรับขึ้นมาที่ 41%" นายจุฬากล่าว

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประสานกับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) เพื่อเชิญให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อยกระดับการบินของไทยจาก Category 2 ขึ้นเป็น Category 1 ภายในเดือนมี.ค.อีกด้วย ซึ่งข้อบกพร่องส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขจากการปลดธงแดงแล้วเหลือเพียงปัญหานักบิน โดยกพท. ได้ปรับเกณฑ์ในการตรวจเช็คมาตรฐานเพื่อให้รวดเร็วมากขึ้นแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ