นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ 31.65 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน ระดับเดียวกับช่วงเปิดตลาดเช้านี้ ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 31.62-31.67 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่านักลงทุนรอดูสหรัฐเปิดแผน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคืนนี้ และการประกาศตัวเลข CPI ในคืนวันพุธนี้
"บาทแกว่งตัวแคบๆ ตามแรงซื้อขาย คาดว่านักลงทุนรอดูสหรัฐเปิดแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคืนนี้ และตัวเลข CPI ในคืนวันพุธนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.60-31.75 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 108.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.69 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.2262 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2273 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,799.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด, +0.73% มูลค่าการซื้อขาย 51,313.71 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,151.33 ล้านบาท (SET+MAI)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-
31.80 ต่อดอลลาร์ จุดสนใจจะอยู่ที่ดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดค้าปลีกเดือนมกราคมของสหรัฐฯ สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่า
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ในการประชุมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และมีแนวโน้ม
ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในเชิงบวกมากขึ้น แต่ทางการจะเฝ้าระวังความผันผวนของตลาด
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหนังสือถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง ขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรก
รรมที่เกี่ยวข้องับคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) เนื่องจากในประเทศไทย คริปโตเคอเรนซียังไม่มีคุณสมบัติเป็นเงินที่ใช้
ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และยังไม่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานใดเป็นการเฉพาะ ผู้ทำธุรกรรมอาจไม่ได้
รับความคุ้มครองตามสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้บริการทางการเงินในกรณีถูกหลอกลวง หรือเกิดปัญหาในการทำธุรกรรม นอกจากนี้ การ
ใช้คริปโตเคอเรนซีอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมายได้ เช่น การฟอกเงิน หรือการสนับสนุนการก่อการร้าย ประกอบ
กับการทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการทำผ่านระบบเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของ
ระบบเป็นสำคัญ
- ธปท. คาดว่าสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 61 จะขยายตัวได้ 6-8% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่าน
มา โดยมองว่าจะเป็นการขยายตัวจากสินเชื่อในส่วนของภาคอุตสาหกรรม, พาณิชย์ โดยเฉพาะในส่วนของการส่งออกและท่องเที่ยว
เป็นสำคัญ
- ธปท.ออกประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์การดำรงแหล่งที่มาของเงินให้สอดคล้องกับการใช้ไปของเงิน (Net stable
funding ratio: NSFR) ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งหลักเกณฑ์จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 61 เป็นต้น
ไป
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2561 สคร.จัดเก็บรายได้แผ่น
ดินจำนวน 7,252 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายการจัดเก็บรายได้แผ่นดินจำนวน 3,357 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้แผ่นดินสะสม 4
เดือน จำนวน 50,646 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายรายได้แผ่นดินสะสมจำนวน 12,994 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35% ซึ่งมีส่วนช่วย
รักษาเสถียรภาพการคลังของประเทศ
- ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณแห่งทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยว่า ทำเนียบขาวเตรียมเสนองบประมาณต่อสภา
คองเกรสในวันนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ และอีก 2.3
หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อยกระดับความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ แผนงบประมาณดังกล่าวยังรวมถึงข้อเสนอในการปรับลดการ
ขาดดุลงประมาณลง 3 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เปิดเผยว่า จีนเตรียมเปิดการซื้อขายสัญญาน้ำมัน
ดิบล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2561 ที่ตลาดพลังงานระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (INE) เพื่อเพิ่มอำนาจของจีนในการกำหนดราคา
น้ำมัน