รัฐบาล เตรียมตั้งคณะทำงานเพื่อวางกรอบกม.ใหม่เกี่ยวการทำธุรกรรมดิจิทัลในสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 14, 2018 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในหัวข้อ "นโยบายเพื่อการขับเคลื่อนการยกระดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย"ว่า เตรียมจัดตั้งคณะทำงานอีก 1 ชุด ทำหน้าที่ในการวางกรอบกฏหมายใหม่ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดิจิทัลในอนาคต ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการออกมา โดยมีตนเป็นประธานคณะกรรมการ และมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา ซึ่งคณะกรรมการจะประกอบด้วย ตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ ในปี 2561 รัฐบาลจะเร่งปรับปรุงและยกเลิกกฏหมายที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ โดยตั้งเป้ายกเลิกกฏหมายที่ไม่จำเป็น 50% และปรับปรุงกฏหมายให้ดีขึ้นอีก 25% และคาดหวังผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก หรือ Doing Business ปีนี้ให้ประเทศไทยขยับดีขึ้นมาอยู่ไม่เกินอันดับที่ 20 จากที่ปีที่ผ่านมาซึ่งไทยอยู่อันดับที่ 26

โดยเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการทบทวนกฏหมายที่ล้าสมัยและสร้างภาระแก่ประชาชน ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยกลั่นกลองกฏหมายลูกหรือกฏหมายอื่นที่ออกโดยกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดตั้งสำนักงานได้ในช่วงต้นปีหน้า

นายกอบศักดิ์ คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแก้ไขกฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจในช่วงปลายเดือนก.พ. หรืออย่างช้าไม่เกินกลางเดือนมี.ค.นี้ โดยหวังจะลดต้นทุนได้ถึง 4-5 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการปรับปรุงกฏมายใน 4 ด้าน ที่คะแนนจากการจัดอันดับในปีที่ผ่านมาไม่ดีขึ้น ประกอบด้วย 1.ใบอนุญาตการก่อสร้าง เตรียมแก้ไขกฏหมายให้สามารถลดระยะเวลาดำเนินการได้เหลือ 37 วันจาก 110 วัน

2.การปรับปรุงการจดทะเบียนทรัพย์สิน ให้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น LandsMaps ให้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินได้อย่างสะดวก ทั้งรูปแปลงที่ดิน ตำแหน่งและสภาพพื้นที่ ราคาประเมิน ค่าธรรมเนียม ภาษีอากร ค่าใช้จ่ายในการรังวัด คิวรังวัด รวมทั้งข้อมูลการเดินทางไปยังสำนักงานที่ดิน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เลขที่โฉนดแล้ว

3.การค้าต่างประเทศ ที่กรมศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือเอกชนร่วมกันพัฒนา National Single Window (NSW) ใบกำกับการขนย้ายสินค้า และยังพัฒนาการให้บริการพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับของถ่ายลำ และการขนส่งต่อเนื่องเปลี่ยนยานพาหนะ (e-Transition) รวมทั้งพัฒนาระบบตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Matching) ด้วย

4.ด้านการแก้ปัญหาการล้มละลาย ที่กรมบังคับคดีนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการทำงาน ได้แก่ ระบบ e-Filing และ e-Payment ระบบ e-Insolvency Case Management System มาเริ่มใช้กับการทำงานในสำนวนกลางไม่มีทรัพย์โฆษณาคำสั่ง คำพิพากษา และประกาศต่าง ๆ รวมทั้งแอพพลิเคชั่น LED ABC (Application Bankruptcy Checking) เพื่อตรวจสอบบุคคลล้มละลาย

พร้อมกันนี้ เตรียมพิจารณายกเลิกกฏระเบียบในระดับท้องถิ่นที่มีถึง 7 แสนกว่าใบอนุญาตให้มายึดหลักเกณฑ์จากส่วนกลางที่มีอยู่ประมาณ 6,000 ใบอนุญาต ก่อนที่ปรับปรุงและยกเลิกหลักเกณฑ์ส่วนกลางให้เหลือประมาณ 1,000 ใบอนุญาตเท่านั้น โดยคาดว่าใช้เวลาดำเนินการได้ภายใน 1-2 ปี

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้จริงจังมากขึ้น โดยอย่ามองแค่การพัฒนาดิจิทัลเพียงด้านเดียว แต่ต้องครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งการปรับปรุงด้านการเกษตร การท่องเที่ยว การสร้างสตาร์ทอัพ เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศ

รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งสำคัญหน่วยงานภาครัฐต้องทราบถึงแนวนโยบายของรัฐบาลว่าทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลไม่ได้เน้นแต่ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม แต่ต้องการให้เกิดการเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและการพัฒนาให้เกิดวิสาหกิจชุมชน รวมถึงการสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา เน้นการตั้งสถาบันฝึกอบรมช่างวิชาชีพ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ยังฝากให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งไทยถือเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาค หลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มประเทศยุโรป ทั้งอังกฤษ อิตาลี และฝรั่งเศส ได้ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศมาเยือนประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ