ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.40 แข็งค่าจากแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 31.30-31.50 ติดตามตัวเลขศก.สำคัญ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 5, 2018 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.40 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.45 บาท/ดอลลาร์

"ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดย่อยข่าวกีดกันทางการค้าของหสรัฐฯ ตลาดกังวลว่าน่าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของ สหรัฐฯในวันข้างหน้า และต้องรอดูท่าทีของนานาชาติว่าจะมีมาตรการตอบโต้อย่างไร ส่งผลทำให้มีแรงขายดอลลาร์ออกมาในตลาด โลก"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์

"สัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญค่อนข้างมาก ได้แก่ ตัวเลข ISM ภาคบริการของสหรัฐฯในคืนนี้, ผลการประชุมของ ธนาคารกลางยุโรป (ECB), ผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

THAI BAHT FIX 3M (2 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.00751% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (2 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.05723%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 105.48 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 105.69 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.2330 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2278 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.4780 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (5-9 มี.ค.) ที่ 31.30-31.70 บาท
ต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ตัวเลข
การจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเดือนม.ค.
รายงาน Beigebook ของเฟด นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย ผลการเลือกตั้งในอิตาลี (4 มี.ค.) ข้อมูล
เศรษฐกิจจีนเดือนก.พ. ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คาดว่าดอกเบี้ยไทยไม่ขึ้นเร็วตามสหรัฐ และธุรกิจต่างมีเงื่อนเวลาและจังหวะในการลงทุน
ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องระดมทุนมาแบกไว้มากๆ
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา รอศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์
เกี่ยวกับช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งรวมถึงการขยายขอบเขตการแต่งตั้งตัวแทนของธนาคารพาณิชย์ (แบงก์กิ้ง
เอเย่นต์) เนื่องจากธนาคารมองว่ามีหลายธุรกิจที่น่าสนใจ น่าจะต่อยอดเป็นแบงก์กิ้ง เอเย่นต์ได้
  • พาณิชย์จับตามาตรการขึ้นภาษี"ทรัมป์" เข้าข่ายผิดกฎดับบลิวทีโอ ชี้ข้ออ้างเพื่อความมั่นคง ใช้ได้เฉพาะภาวะ
สงคราม เล็งผนึกชาติพันธมิตรเสียหาย ระงับข้อพิพาท ไปจนถึงฟ้องร้องดับบลิวทีโอ เอกชนเชื่อเป็นสงครามการค้า ประธานฯ อียู
เผยกำลังร่างมาตรการตอบโต้สหรัฐ "ทรัมป์"ทวิตขู่จะเก็บภาษีรถยนต์ยุโรป
  • บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ เอเซีย พลัส มองว่า ปีนี้จีดีพีของไทยน่าจะเติบโตใน
ระดับประมาณ 4.2% และ 4.4% ในปี 2562 ปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตมาจากเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งการลงทุน
ของภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ขณะที่การ
ลงทุนภาครัฐน่าจะเห็นความคืบหน้ามากขึ้นจากปี 2560 ที่เผชิญกับ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง โดยคาดว่าปีนี้น่าจะมีโครงการที่อนุมัติและรอ
ประมูลกว่า 1.52 แสนล้านบาท
  • การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือรัฐสภาจีน ครั้งที่ 13 จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ โดยคาดว่า รัฐบาลจีน
จะกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2561 ที่ระดับ 6.5% และกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของเงินเฟ้อที่ระดับ 3% ซึ่ง
ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของปี 2560
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป หากสหภาพยุโรป (EU) ตอบโต้การ
ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ
  • ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการที่สหรัฐประกาศว่ามีแผนเรียกเก็บ
ภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ขณะที่มีแนวโน้มที่จะเกิดการตอบโต้จากประเทศคู่ค้า ซึ่งเห็นได้จากปฏิกริยาในช่วงแรกจากประเทศ
อื่นๆ โดยการทำสงครามการค้าจะไม่เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และองค์การการค้าโลกจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
  • นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด หลังจากที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่า
การ BOJ ได้แถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า BOJ อาจจะพิจารณาถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในปีงบประมาณ
2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ BOJ คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้
  • นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์
นี้ หลังจากที่ตัวเลขจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง
180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนม.ค.ทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ