ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.42 อ่อนค่าจากช่วงเช้าตามภูมิภาค ตลาดจับตาผลกระทบจากมาตราการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 5, 2018 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.42 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 31.40 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.39-31.45 บาท/ดอลลาร์

"ปิดตลาดอ่อนค่าจากช่วงเช้า ระหว่างวันเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดโลก โดยตลาดยังให้น้ำหนักกับเรื่องที่สหรัฐฯ จะ ออกมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งเกรงว่าประเทศคู่ค้ารายใหญ่จะมีมาตรการตอบโต้ส่งผลให้เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวหยุดชะงัก" นัก บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 31.35-31.50 บาท/ดอลลาร์

"ช่วงนี้ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินยังไม่ชัดเจน แต่ช่วงตั้งแต่กลางสัปดาห์เป็นต้นไปจะมีการประชุมธนาคารกลาง ยุโรป (ECB), การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ" นักบริหารเงิน กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 105.58 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.48 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.2319 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2330 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,808.89 จุด ลดลง 3.09 จุด, -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 69,970.69 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,072.82 ล้านบาท (SET+MAI)
  • นายมาสาซูมิ วาตากาเบะ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ทำหน้าที่รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวในวันนี้ว่า
ตนเองจะเสนอให้มีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หากพิจารณาแล้วว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำให้เงินเฟ้ออยู่ที่
ระดับเป้าหมายที่ 2% และ BOJ ไม่ควรรีบร้อนถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเร็วเกินไป
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน อยู่ที่ 56.2 ในเดือนก.พ. โดยลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 56.7 และลดลงจากระดับ
58.0 เมื่อเดือนม.ค.
  • ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น (CICC) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่ง
เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ประจำเดือนก.พ.ที่ผ่านมา จะขยายแตะที่ระดับราว 2.5%
  • นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือรัฐสภาจีน ครั้งที่ 13

ในวันนี้ว่า จีนมุ่งมั่นที่จะสร้างความคืบหน้าในการปฏิรูปเศรษฐกิจในปีนี้ และจะเดินหน้าพัฒนาแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่อไป โดย

กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2561 ไว้ที่ระดับ 6.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเป้าหมายในปี 2560 พร้อมกับคง

เป้าหมายการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อสำหรับปี 2561 เอาไว้ที่ระดับ 3% ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการขาดดุลงบ

ประมาณสำหรับปี 2561 ลงสู่ระดับ 2.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี

2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ