นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.17 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวัน เคลื่อนไหวระหว่าง 31.16-31.20 บาท/ดอลลาร์
"ท้ายตลาดเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย ยังไม่มีปัจจัยใหม่ หลังจีนออกมาส่งสัญญาณในทางบวกเกี่ยวกับมาตรการทางการ ค้า" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.10-31.25 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยที่นักลงทุนจับตาดูคือ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค.ของสหรัฐฯ และบันทึกรายงานการประชุมของคณะ กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) วันที่ 20-21 มี.ค.
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.09 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2376 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2357 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,763.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด, +0.13% มูลค่าการซื้อขาย 55,094.50 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,519.83 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย (Asian
Development Outlook : ADO) โดยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 4% ในปี 61 และ 4.1% ในปี 62 เนื่องจากการเร่งลง
ทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภายในประเทศที่กระเตื้องขึ้น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เห็นว่านโยบายการเงินยัง
ควรอยู่ในระดับผ่อนคลายไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทยอยกบับสู่
เป้าหมายในระยะปานกลางได้
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)เตรียมเชิญหน่วยงานด้านนโยบายเศรษฐกิจจากกระทรวงอื่นมาร่วม
หารือกันถึงผลดีผลเสียของปัญหาสงครามการค้าที่กำลังคุกรุ่นอยู่ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ว่าจะกระทบกับอย่างไรบ้าง และ ควรรับมือ
อย่างไร ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับหลังช่วงสงกรานต์
- ธนาคารธนชาต (TBANK) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลงานไตรมาส 1/61 เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยสินเชื่อเช่าซื้อ
ขยายตัวได้ตามปกติ และแนวโน้มสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือน มี.ค.61 ปรับตัวลด
ลงมาอยู่ที่ระดับ 45.6 ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อสถานการณ์การค้าโลกที่ทวีความซับซ้อนและอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในทางใด
ทางหนึ่ง ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกภายในประเทศใหม่ๆ มากระตุ้น นอกจากนี้ครัวเรือนยังมีค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้) เพิ่มขึ้นจาก
การท่องเที่ยวตามกระแสนิยม รวมถึงการวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์
- ศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน เมษายน 2561 ปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจากเมื่อ
เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา จากระดับ 45.28 จุด มาอยู่ที่ระดับ 48.69 จุด เพิ่มขึ้น 3.41 จุด หรือคิดเป็น 7.53% ซึ่งดัชนียังคงแสดง
ถึงทัศนคติในเชิงลบอยู่ แม้ดัชนีจะปรับขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด หลังจากเดือนก่อนหน้านี้ปรับลดลงอย่าง
รุนแรง
- รมว.คลัง เตรียมจะเสนอชื่อปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบหลังเทศกาล
สงกรานต์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะแต่งตั้งคนนอกหรือคนในกระทรวงการคลังขึ้นมารับตำแหน่งแทนนายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ได้
ยื่นหนังสือลาออกจากราชการไปในช่วงเย็นวานนี้
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2561 ของกลุ่ม
ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย สู่ระดับ 6.0% จากระดับ 5.8% โดยได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม
ADB เตือนว่า มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และมาตรการตอบโต้ต่างๆ อาจสร้างความเสียหายต่อการค้าโลก
- ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกโรงเตือนว่า เศรษฐกิจโลกตกอยู่ภายใต้เมฆครึ้มที่บดบัง
ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมกับผลักดันให้รัฐบาลประเทศต่างมีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับลัทธิการ
ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง มิเช่นนั้นก็จะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ด้านลบตามมา
- ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เผยจีนเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีในการดำเนินนโยบายการเงินที่รอบคอบต่อไป รวมทั้ง
เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการรับมือกับการปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติของบรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่
- ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า จีนจะไม่ปรับลดค่าเงินหยวน เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้า
กับสหรัฐ พร้อมกับระบุด้วยว่า กลไกอัตราแลกเปลี่ยนของจีนนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ต่างก็มีมุมมองที่สอดคล้องกันว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า
ของสหรัฐนั้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจจีนในวงจำกัดเท่านั้น และเชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถคลี่คลายข้อพิพาทด้านการ
ค้าได้โดยผ่านการเจรจา
- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค.ของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และดัชนีราคาผู้
บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ครั้งต่อไปของเฟด หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.