"นีโอ"-ททท.เตรียมจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวกีฬากลางแจ้งคาดเงินสะพัด 180 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 26, 2018 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) กล่าวว่า นีโอจึงได้เตรียมจัดมหกรรมท่องเที่ยวและกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี ได้แก่ มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวกีฬากอล์ฟและท่องเที่ยวดำน้ำแห่งประเทศไทย หรือ Thailand Golf & Dive Expo 2018 และงาน Outdoor Fest ซึ่งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งถือเป็นการรวบรวมสุดยอดกิจกรรมสำหรับผู้รักการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและกีฬา มาไว้ในงานเดียวกัน โดยภายในงาน มีผู้ประกอบการทั้งคนไทยและต่างประเทศมาร่วมแสดงงานกว่า 350 บูธ

การจัดงานในปีนี้ได้รวบรวมผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศที่มีมาตรฐานการบริการที่มีคุณภาพ มาร่วมจัดแสดง แบบครบวงจร โดยในงาน Thailand Dive Expo 2018 ภายในงานยังมีการจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ ประกอบด้วย โรงเรียนสอนดำน้ำที่ได้มาตรฐานสากล ทริปดำน้ำทั้งในและต่างประเทศ รีสอร์ทที่พัก เรือ Live-aboard อุปกรณ์ดำน้ำ อุปกรณ์เสริมต่างๆ กล้องถ่ายภาพ Housing ในส่วนของผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ ฟิลิปปินส์ มัลดีฟส์ ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อียิปต์

"ในแต่ละปีจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเรียนดำน้ำในประเทศไทยมากกว่าแสนคน และมีจำนวนผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดสำคัญสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำ ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้ซื้อในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ เห็นภาพใน Social network ของนักดำน้ำหลายคนที่มีโอกาสได้พบฉลามวาฬขณะไปดำน้ำที่ทะเลอ่าวไทย ก็คาดว่าการจัดงานในปีนี้จะมีความคึกคักมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา และจากกระแสนี้น่าจะทำให้มีคนสนใจเรียนดำน้ำมากขึ้น มั่นใจผู้ชมงานกว่า 100,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10% เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท" นายศักดิ์ชัย กล่าว

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB สนับสนุนงาน Thailand Dive Expo อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 55 เนื่องจากงานนี้มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในลักษณะของ B2B ได้ สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำของไทยนั้น ทำรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก

ส่วนงาน Thailand Golf Expo 2018 ได้จัดแสดงสินค้าประกอบด้วยสนามกอล์ฟทั่วไทยกว่า 50 สนาม มานำเสนอแพคเกจกรีนฟี ราคาพิเศษ ที่พักในสนามกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์เสริมแบรนด์ดังต่างๆ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษลดสูงสุดถึง 70 % อาทิ Wangjuntr Golf Park , Amazing Phuket Golf ฯลฯ สำหรับธุรกิจกอล์ฟในประเทศไทยนั้นยังได้รับอานิสงค์จากการเปิดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ส่งผลให้ธุรกิจกอล์ฟในประเทศไทยมีแนวน้อมการเติบโตที่ดีจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE และนักธุรกิจ EEC

ขณะที่การจัดงานท่องเที่ยวเชิงผจญภัย "Outdoor Fest 2018" ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Jungle in the City โดยได้รวบรวม แหล่งท่องเที่ยวแบบผจญภัยและท้าทาย มาให้เลือกช้อปแพ็คเกจท่องเที่ยวหลายรูปแบบหลากสไตล์ในราคาโปรโมชั่นจากผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็น รีสอร์ท ที่พักสไตล์ชุมชน อุปกรณ์เดินป่า ปีนผา ทริปล่องแก่ง และแค้มป์ปิ้ง ฯลฯ

ด้านนายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า "Trend ของ Lifestyle กิจกรรม Outdoor เริ่มเป็นที่นิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น การจัดงาน Thailand Golf & Dive Expo 2018 และงาน Outdoor Fest 2018 นับเป็นการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากการท่องเที่ยวโดยทั่วไป สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ และพบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการทำกิจกรรมต่าง ๆ สูง

ดังจะเห็นว่าการจัดการแข่งขันกิจกรรม Outdoor มีการจัดขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศไทยผนวกกับการเดินทางท่องเที่ยว กิจกรรมกลางแจ้งเชิงผจญภัย อาทิ ล่องแพกาญจนบุรี ล่องแก่งในพื้นที่พิษณุโลก ปราจีนบุรี หรือนครนายก เล่นเซิร์ฟทะเลอันดามัน ซิปไลน์ในภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย คานู คายัค ตรัง กระบี่ ดำน้ำ พังงา กระบี่ ภูเก็ต ขี่ช้าง เชียงใหม่ ฯลฯ อันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ ในการส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างมหาศาล

ในปี 61 ททท. ได้กำหนด 3 แนวทางหลักในการผลักดันการท่องเที่ยว คือ 1. สร้างกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อชะลอความเสื่อมโทรมของทรัพยากรการท่องเที่ยว 2. สร้างสรรค์ Content เพิ่มคุณค่าให้สินค้าท่องเที่ยวไทย 3.ขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ด้วยการนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยว สัมผัส Thai Local Experience ผ่านวิถีการกิน ซึ่งแนวทางการทำงานดังกล่าวถูกนำมาปรับใช้กับทุกกิจกรรมที่ ททท. พยายามผลักดันและส่งเสริม โดยเฉพาะการส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง จะเน้นให้ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ใส่ใจกับการจัดกิจกรรมที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การลดมลภาวะทางเสียงในกิจกรรม Water Sport"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ