ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.71/73 อ่อนค่าจากช่วงเช้าหลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนุนดอลล์แข็ง จับตาถ้อยแถลงเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 2, 2018 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.71/73 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.68/70 บาท/ดอลลาร์

ช่วงเย็นนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากช่วงเช้า โดยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ระยะนี้ยังมีแนวโน้มแข็งค่า เพราะ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวออกมาค่อนข้างดี ประกอบกับล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก นอก จากนี้ต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งในรอบนี้คาดว่ายังคงอัตรา ดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมไปก่อน จนกว่าจะมีความแน่ใจเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ชัดเจนกว่านี้

"รอบนี้น่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เชื่อว่าเฟดคงรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ของเดือนนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง ทั้งการ จ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราเงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต้องจับตาว่าจะมีถ้อยแถลงต่อมุมมองเศรษฐกิจอย่างไร...มองว่า ประชุมรอบหน้า มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่า" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า โดยพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.65 - 31.85 บาท/ ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.66/69 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1999 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2005/2008 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,791.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.02 จุด (+0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 56,453 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,343.74 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย. 61 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้
บริโภค อยู่ที่ 80.9 จาก 79.9 ในเดือน มี.ค.61 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือน นับตั้งแต่ ม.
ค.58 เป็นต้นมา ตามการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยังต้องติดตามต่อไปว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
หรือไม่ในอนาคต เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยยังคงมีอยู่
  • ม.หอการค้าไทย คาดว่าไตรมาส 1/61 GDP จะโตได้ 4.0-4.2% หรือเฉลี่ยที่ 4.1% ขณะที่ไตรมาส 2
สถานการณ์จะดีขึ้นจากภาคส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ช่วงครึ่งปีแรก GDP เติบโตได้ราว 4.1-4.2% ส่วนครึ่งปีหลังคาด
ว่า GDP จะโตได้ราว 4.4-4.6% โดยเศรษฐกิจมหภาคจะค่อยๆ ฟื้นตัว และความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในช่วงไตร
มาส 4
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน เม.ย.61 ลดลงจากระดับ
53.3 ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 49.5 โดยเป็นการปรับลดลงในทุกองค์ประกอบ ผู้ประกอบการในภาคการผลิตมีความเชื่อมั่นลดลง
ในด้านการผลิตและคำสั่งซื้อ โดยเฉพาะในธุรกิจผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

สาเหตุหลักจากจำนวนวันทำการที่น้อย เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ในภาคการค้าปรับลดลง หลังจากมีการเร่งซื้อในเดือนก่อนหน้า

  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) คาดเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อ
อนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)ตามแผนในช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. นี้ หลังกระบวนการต่าง ๆ ในการจัดตั้งกองทุน
ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์พร้อมหมดแล้ว แต่ยังติดปัญหาบางส่วนอยู่
  • รัฐบาลสหรัฐประกาศขยายเวลาการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป
(EU), แคนาดา และเม็กซิโก ออกไป 1 เดือน หรือจนถึงวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายที่จะ "ให้เวลา 30 วันสุดท้าย" แก่
ประเทศเหล่านี้ ในการบรรลุข้อตกลงการเจรจาด้านการค้ากับสหรัฐ
  • รัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาใช้มาตรการที่จำเป็นภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลกหรือ WTO ในขณะที่ยังคงเดินหน้า
เรียกร้องให้สหรัฐยกเว้นการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากญี่ปุ่นอย่างถาวร"
  • รองนายกรัฐมนตรีจีน และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับ
สูงของสหรัฐ เพื่อหารือในประเด็นการค้า
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เตรียมแถลงมติอัตราดอกเบี้ยนโยบายในคืนนี้
โดยตลาดยังเชื่อว่า FOMC ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม และน่าจะปรับขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ