ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.93 อ่อนค่าสอดคล้องสกุลเงินอื่นในภูมิภาค จับตาทิศทางดอกเบี้ยของกนง.พรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 15, 2018 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.93 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.87 บาท/ดอลลาร์

ในช่วงบ่ายเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งน่าจะเป็นผลจากที่อัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐ ระยะ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 3.01% จึงทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าราคาสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่จะ สูงขึ้น ส่งผลให้เงินบาทและค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคอ่อนค่าสอดคล้องกัน

อย่างไรก็ดี พรุ่งนี้ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วยว่าจะเสียงแตกเรื่องการตัดสินใจ ปรับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะหากมีเสียงที่ต้องการให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็เชื่อว่าเงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปเร็ว

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80 - 32.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.72 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1925 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1934 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,766.86 จุด ลดลง 6.24 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 60,118 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,318.31 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ขณะนี้การระดมทุนด้วยรูปแบบของ
การเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้แก่ประชาชนครั้งแรก (ICO) ไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่า ก.ล.ต.จะออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแล
ออกมา เนื่องจากการออก ICO นับจากนี้จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสิน
ทรัพย์ดิจิทัล ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ก.ล.ต.จะเริ่มกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่มีต่อกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งน่า จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ และคาดว่าจะประกาศหลักเกณฑ์ออกมาได้อย่างช้าไม่เกินสิ้นเดือน มิ.ย.61

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่มีการออกกฎหมายในลักษณะเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิน
ทรัพย์ดิจิทัลซึ่งครอบคลุมเงินดิจิทัลเป็นครั้งแรกสำหรับประวัติศาสตร์ไทย ที่ผ่านมา ในกรณีของประเทศอื่นๆ จะเน้นการประยุกต์ใช้
กฎเกณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้กับกรณีของสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ สหรัฐฯ และสวิสเซอร์แลนด์ เพียงแต่ให้ความชัดเจน
กับตลาดว่ากฎดังกล่าวจะมีผลกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นไร แต่สำหรับทางการไทยนั้น เลือกที่จะสร้างความชัดเจนด้วยการออก
กฎหมายเป็นการเฉพาะ ชี้ไม่กระทบต่อการพัฒนาช่องทางการระดมทุนใหม่ๆ ของธุรกิจสตาร์ทอัพ และการพัฒนาเทคโนโลยี
Blockchain เนื่องจากกฎหมายนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาระบบการเงิน และโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีของประเทศ
  • ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.

ค.) ซึ่งตลาดยังคงคาดการณ์ว่า กนง.จะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมที่ 1.50% เพื่อช่วยเอื้อต่อการขยายตัวของ

เศรษฐกิจไทยต่อไป รวมทั้งจับตาว่ามติ กนง.รอบนี้จะเป็นเอกฉันท์หรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ