ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.07 อ่อนค่าจากช่วงเช้าหลังมีเงินไหลออก รอดูตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 17, 2018 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.07 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.03 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าและมีเงินทุนไหลออก ระหว่างเงินบาทวันเคลื่อนไหวใน กรอบ 31.97-32.09 บาท/ดอลลาร์

"บาทกลับมาอ่อนค่าจากช่วงเช้า เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าและมี flow ไหลออก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.00-32.15 บาท/ดอลลาร์

คืนนี้ทางการสหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงาน

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 110.68 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.32 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1806 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1809 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,751.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด, +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 71,213.15 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,233.88 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBEIC) คาดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กน
ง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ต่อเนื่องในปี 61 แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนล่าสุดจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ แต่อี
ไอซีคาดว่า กนง. จะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยทันที

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่ กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในช่วงปลายปี หาก 1) เศรษฐกิจไทยสามารถ ขยายตัวได้ต่อเนื่องและช่องว่างการผลิตปิดลง พร้อมทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทรงตัวภายในกรอบเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน หรือ 2) ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินเพิ่มสูงขึ้นชัดเจน และพบปัญหาเป็นวงกว้างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยมาตรการกำกับ ดูแลความเสี่ยงเชิงระบบ (macroprudential policy) ก็อาจทำให้ กนง. จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้

  • กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนเม.ย. อ่อนตัวลง 1.1% เมื่อ
เทียบเป็นรายปี แตะ 5.924 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอด FDI เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.4%
เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • สภาทองคำโลก (World Gold Council) เผยแพร่ชุดบทความที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งมีชื่อว่า "Gold 2048"
โดยได้ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกมาร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับทิศทางของตลาดทองคำว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ในอีก 30 ปีข้างหน้า พร้อมเปิดเผยว่าการขยายตัวของชนชั้นกลางในจีนและอินเดีย รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้างมาก
ขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความต้องการทองคำ ขณะที่การใช้ทองคำในภาคพลังงาน เฮลท์แคร์ และเทคโนโลยีมีการ
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่สถานะของทองคำจะยังคงเป็นวัตถุทางเลือกต่อไป และจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงในอีกหลายทศวรรษข้าง
หน้า
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า แรงปะทะที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจทั้งจากในและต่างประเทศ
กำลังทำให้เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก
  • ตลาดการเงินจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยคืนนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ