ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.08 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค มีลุ้นแตะ 32.22

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 18, 2018 09:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.08 บาท/ดอลลาร์ ใกล้ เคียงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.07 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุดเงินบาทอ่อนไปอยู่ที่ระดับ 32.12 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางเงินบาทวันนี้มีโอกาสจะอ่อนค่าต่อ แม้จะยังไม่มีการ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญมากนักในวันนี้ แต่นักลงทุนยังกังวลความเสี่ยงของตลาดเกิดใหม่ ซึ่งทำให้ค่าเงินในภูมิภาคปรับตัวอ่อน ค่าได้ โดยเงินบาทวันนี้มีโอกาสจะเข้าไปใกล้ high เดิมที่ประมาณ 32.22 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทมีโอกาสจะอ่อนค่าเข้าไปใกล้ๆ หรือแตะ high เดิมได้ แต่ยังไม่เห็นปัจจัยที่จะทะลุ high เดิมไปได้ ซึ่งตอน นี้นักลงทุนยังกลัวความเสี่ยงในเรื่องตลาดเกิดใหม่ ทำให้เงินในภูมิภาคปรับตัวอ่อนค่า" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.97-32.22 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (17 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.21649% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.34411%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.68 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1806 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.0150 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกรุงเทพ ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มเจเนอเรชั่นวายที่เพิ่งเริ่มทำงาน อายุ 23 ปีขึ้นไป และมีรายได้
ประมาณ 2 หมื่นบาท/เดือน ให้ได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควรที่ธนาคารยังไม่สามารถเข้าถึงได้มากนัก และปัจจุบันมี
สัดส่วนประมาณ 15-18% ของฐานลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารที่มีอยู่ 2.2 ล้านใบเท่านั้น
  • แบงก์ธนชาต ลุยสินเชื่อเอสเอ็มอี สานต่อนโยบายผลิตภัณฑ์ "สินเชื่อธนชาต SME ได้ใจ" ตั้งเป้ายอดสินเชื่อรวมสิ้นปี
นี้ 3 พันล้านบาท
  • ก.ล.ต.เปิดรับฟังความคิดเห็นเกณฑ์คุมสินทรัพย์ดิจิทัลถึง 30 พ.ค. เสนอนักลงทุนเทรดได้ครั้งละไม่เกิน 3 แสน
บาท เป็นบริษัทที่ตั้งโดย กม.ไทยทุนจดทะเบียน ขั้นต่ำ 5 ล้านบาท
  • กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวม
ราคาอาหารสดนั้น ปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 พ.
ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3.10% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยได้แรงหนุนจากตัวเลข
เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรายงานจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียซึ่งระบุว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิต
ของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินดีดตัวขึ้นตามไปด้วย ซึ่ง ถือเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นนั้น มาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย รายงานดัชนีกิจกรรมการผลิตพุ่งขึ้นแตะระดับ 34.4 ในเดือนพ.ค.
สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 21.0
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่
ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย
  • Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.4% สู่
ระดับ 109.4 ในเดือนเม.ย. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจาก
เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญา
ทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
ทองคำเช่นกัน
  • นักลงทุนจับตาการประชุมการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับนาย
หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ทำเนียบขาว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ