ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.67 อ่อนค่าจากช่วงเช้าหลังมีเงินไหลออกต่อเนื่อง มองกรอบพรุ่งนี้ 32.65-32.75

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 18, 2018 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 32.61 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกทั้งตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น นักลงทุนกลับไปถือครอง ดอลลาร์นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.61-32.76 บาท/ดอลลาร์

"บาทอ่อนค่าหลังมีเงินทุนไหลออกต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน แต่ทิศทางจะอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค โดย ระหว่างวันเงินบาททำนิวไฮที่ 32.76 (บาท/ดอลลาร์) นับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2560" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 32.65-32.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 110.53 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.32 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1597 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1585 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,679.68 จุด ลดลง 25.14 จุด, -1.47% มูลค่าการซื้อขาย 51,882.68 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,807.04 ล้านบาท (SET+MAI)
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติ
คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ในที่ประชุมวันที่ 20 มิถุนายน แต่การเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่งใน
ภูมิภาค ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของสหรัฐฯและไทยที่กว้างขึ้น รวมถึงกระแสเงินทุนไหลออกที่เร่งตัว อาจทำให้การรักษาเสถียรภาพ
ของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อของไทยจะฟื้นตัวอย่าง
ช้าๆ ก็ตาม
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ต่อ
เนื่องในการประชุม กนง.รอบที่สี่ของปี 2561 ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ แต่จุดสนใจของการประชุมในรอบนี้อยู่ที่การประเมินสถานการณ์
ทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยสภาวะเศรษฐกิจไทยมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในภาคการบริโภคและการลงทุน จากตัว
เลข GDP ในไตรมาสที่ 1/2561 ที่สะท้อนถึงการขยายตัวเพิ่มขึ้นขององค์ประกอบ GDP ในทุกองค์ประกอบ ในขณะที่เงินเฟ้อปรับตัว
สูงขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1.0-4.0%
  • รมว.คลัง คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อขอจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคต
ประเทศไทย (Thailand Future Fund:TFF) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้
ภายในเดือนก.ค.นี้ และจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับผู้ลงทุนรายย่อยได้ในราวเดือน ก.ย.นี้
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.
ค.61 พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 90.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือนเม.ย.61 เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าภาพรวม
เศรษฐกิจภายในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อภาคการผลิต รวมทั้งการส่งออกได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของ
เศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
  • ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ค.61 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 9.75% โดยส่งออกได้ 98,875 คัน
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การส่งออกเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาดจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าดีขึ้น ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง ตลาด
เมริกาเหนือ และตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้
  • ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวเดือนพ.ค.61 ว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่าง
ชาติ 2,755,059 คน ขยายตัว 6.35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ก่อให้เกิดรายได้ 136,710.26 ล้านบาท ขยายตัว 9.00%
จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
  • ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่า การที่รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ ซึ่งรวม
ถึงน้ำมัน เพื่อตอบโต้การที่รัฐบาลสหรัฐอนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 25% วงเงินรวม 5 หมื่นล้าน
ดอลลาร์นั้น จะเป็นผลเสียต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ โดยขณะนี้บริษัทน้ำมันชั้นแนวหน้าของสหรัฐ เช่น เอ็กซอนโมบิลและเชฟ
รอน ได้รับผลกระทบบ้างแล้วจากการปรับตัวลงของราคาหุ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐได้ร่วงลงราว 5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ