ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.93/95 ระหว่างวันผันผวน แนวโน้มสัปดาห์หน้ายังอ่อนค่าจากเงินทุนไหลออก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 22, 2018 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารรกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.93/95 บาท/ดอลลาร์ จากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.90/96 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างจะผันผวน หลังจากที่เมื่อคืนเงินบาทแข็งค่าและล่าสุดเริ่มกลับมามีทิศทางที่อ่อนค่าต่อ ซึ่งเป็นผลมา จากยังคงมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรของไทย โดยมองว่าในสัปดาห์หน้าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า และมีโอกาส มากที่จะไปแตะระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทค่อนข้างผันผวน จากที่เมื่อคืนไปทำ low แต่ล่าสุดก็กลับมาอ่อนค่า เพราะเงินยังไหลออก แม้วันนี้ดัชนีตลาดหุ้น ไทยช่วงปิดตลาดจะปรับบวก แต่สุทธิทั้งสัปดาห์ก็ยังเป็นลบ" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า ในต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.00 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1639 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1600 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,634.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.54 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 50,150 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 879.88 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าความเสี่ยงจากสงครามการค้าโลกเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดต่อการขยาย
ตัวของการส่งออกและของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้ามี
แนวโน้มยืดเยื้อและเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะระหว่างสหรัฐฯกับจีนเท่านั้น แต่ยังมีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับยุโรป
แคนาดา และเม็กซิโกด้วย
  • ธนาคารกรุงไทย (KTB) ระบุว่า ผลกระทบจากสงครามการค้าจะเริ่มเด่นชัดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค. นี้เป็นต้นไป และ
จะทวีความรุนแรงขึ้นหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เอาจริงกับการการขึ้นภาษีกับสินค้าจีนอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตามที่ขู่ไว้ ซึ่งใน scenario นั้นเราอาจได้เห็นรายละเอียดของภาษีระลอกที่ 3 นี้ในช่วงเดือน ส.ค.หากทางสหรัฐฯ ใช้เวลาใน
การพิจารณารายชื่อสินค้าใกล้เคียงกับการทำภาษีในระลอกที่ 2
  • บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2561 ว่า มียอด
การขายรวมทั้งสิ้น 84,965 คัน เพิ่มขึ้น 27.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
  • สัปดาห์หน้าจะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยเดือนพฤษภาคม 2561 เช่น การผลิตภาคอุตสาหกรรม
ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน การให้สินเชื่อและเงินฝากในระบบสถาบันการเงิน เป็นต้น
  • รายงานผลสำรวจของธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งจัดทำโดยอินเตอร์เนชันแนล ไฟแนซ์ ฟอรั่ม (IFF) ระบุว่า กว่า
63% ของธนาคารกลางทั่วโลกที่ได้รับการสำรวจในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่า โครงการเส้นทางสายไหม (Belt and Road
Initiative) ของจีนจะช่วยเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • กระทรวงพาณิชย์ของจีนเตือนว่า นโยบายการค้าของสหรัฐจะกลับมาส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานและภาคการเกษตร
ของสหรัฐเอง พร้อมกับเตือนว่า รัฐบาลจีนพร้อมที่จะใช้มาตรการหลายด้าน ซึ่งรวมถึงเครื่องมือทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ เพื่อตอบ
โต้ หากสหรัฐประกาศบัญชีรายการสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่
  • นักลงทุนจับตาการประชุมของ 14 ชาติสมาชิกกลุ่มโอเปกซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันนี้ ส่วนในวัน
พรุ่งนี้ จะเป็นการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งนำโดยรัสเซีย ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า โอเปกอาจ
จะปรับเพิ่มเพดานการผลิต หลังจากซาอุดิอาระเบียได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ