นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.97 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.93/95 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทกลับมาอ่อนค่าต่อเนื่อง ช่วงนี้เงินทุนไหลออกต่อเนื่อง ตลาดมีความกังวลสงครามการค้าอาจจะขยายวงกว้าง เพิ่มขึ้นส่งผลให้สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ที่พึ่งพาตลาดการค้าโลกอ่อนค่ากันถ้วนหน้า"นักบริหารเงิน กล่าว
ส่วนทิศทางค่าเงินบาทวันนี้น่าจะอ่อนค่าต่อได้ มองกรอบวันนี้ระหว่าง 32.90-33.05 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทมีโอกาสทะลุ 33.00 บาท/ดอลลาร์ ถ้าทะลุผ่านได้ จะเป็นการอ่อนค่าสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2560"นัก
บริหารเงินระบุ
THAI BAHT FIX 3M (22 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.2219% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.28617%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ (22 มิ.ย.) ที่อยู่ที่ระดับ 110.10 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1655 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ (22 มิ.ย.) ที่อยู่ที่ระดับ 1.1639 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9140 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (25-29 มิ.ย.) ที่ 32.80-33.40 บาท
ต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะ
ที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้
รายจ่ายส่วนบุคคล และตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี Core PCE Price Index เดือนพ.ค. รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน
ประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2561 (ประมาณการครั้งสุดท้าย)
- คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า เงินบาทไทยมีความเสี่ยงต่ำที่จะถูกโจมตีค่าเงิน เมื่อเทียบ
กับประเทศในตลาดเกิดใหม่และอาเซียนบางประเทศ เพราะไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง เงินเฟ้อต่ำ และยังคงเกิน
ดุลการค้าและเกินดุลบัญชีเดินสะพัด แต่ยังต้องเผชิญกระแสเงินทุนระยะสั้นไหลออกอีกระยะหนึ่ง อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ
33.50-34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3 ได้ แต่จะส่งผลดีต่อภาคส่งออกไม่มากนักเพราะมีความผันผวนสูง และค่าเงินกลุ่ม
ประเทศคู่แข่งในตลาดเกิดใหม่ก็ปรับตัวอ่อนค่าเช่นกัน
- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายวิษณุ เครือ
งาม รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปที่สโมสรทหารบก เพื่อร่วมหารือกับตัวแทนพรรคการเมืองในการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง
โดยมีพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้กว่า 30 พรรคการเมือง ยกเว้นพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่
- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% เมื่อวานนี้ โดยจะเริ่มมีผล
บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.นี้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนโครงการสว็อปหนี้สินต่อทุน (debt-to-equity swap) และเพื่อช่วยธุรกิจ
ขนาดเล็กให้สามารถระดมเงินทุนได้มากขึ้น
- ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสิ้นเดือนนี้ เพื่อสกัดความเสี่ยงต่อการ
ทรุดตัวของค่าเงินรูเปียห์จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 27-28 มิ.ย.
- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเตือนว่า ความขัดแย้งทางการค้า
ระหว่างประเทศถือเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดต่อยูโรโซน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความกระตือรือร้นที่จะทำการตรวจสอบรถยนต์นำเข้าให้แล้วเสร็จภายในช่วง
ปลายเดือนก.ค. หรือเดือนส.ค. หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้รมว.พาณิชย์ตรวจสอบว่า ยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่
- นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดทางด้านการค้าระหว่างสหรัฐและคู่ค้ารายใหญ่อย่างจีนและสหภาพ
ยุโรปอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะลุกลามกลายเป็นปัจจัยถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่
มาตรการตอบโต้ของ EU ในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์จากสหรัฐ เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้
- นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งเตรียมเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 1 ในวัน
พฤหัสบดีนี้