นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วานนี้ที่ปิดตลาดที่ 33.13 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้บาทอ่อน ล่าสุดอยู่ที่ 33.19 ยังเป็นไปตามทิศทางภูมิภาค โดยมีเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ตลาดรอ บันทึกรายงานการประชุมของเฟดในรอบที่ผ่านมา และคืนพรุ่งนี้มีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.10-33.25 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (4 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.25184% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.25886%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.2333 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 110.39 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.45 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1660 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1637 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1100 บาท/
ดอลลาร์
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยสถานการณ์ค่าเงินบาทว่า ยังเคลื่อนไหวผันผวนต่อเนื่องอีกระยะ
หนึ่ง แต่เป็นการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับภูมิภาค โดยเฉพาะค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมายหลักในการกีดกันทางการค้า
และมีการตอบโต้กันด้วยมาตรการกีดกันทางการค้า จึงยังสร้างความกังวลต่อตลาดเงินตลาดทุน
- กรุงไทยชี้เงินเฟ้อไทยชะลอตัว แม้บาทอ่อนและน้ำมันแพง เงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงเหลือ 1.38% ในเดือน มิ.ย. เป็น
ผลจากราคาอาหารสด
- โบรกเผยครึ่งปีแรกเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติหรือฟันด์โฟลว์ไหลออก 5 พันล้านเหรียญ เฉพาะ มิ.ย.พุ่ง 1.5 พัน
ล้าน มองครึ่งปีหลังสงครามการค้ายังกดดัน สหรัฐเก็บภาษี 2 แสนล้าน กระทบวงกว้างทั้งทางตรงและอ้อม ยันเดินหน้าลงทุนไทยมาก
สุดในเอเชีย เชื่อแข็งแกร่ง ประเมินลงทุน ก.ค.มีโอกาสฟื้นตัว หลังดัชนีต่ำสุดไปแล้ว
- ตลาดทองคำและตลาดเงินนิวยอร์ก ปิดทำการวันพุธที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ
- ประเทศสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) กว่า 40 ประเทศ ได้จัดการประชุมที่ WTO เมื่อวานนี้ เพื่อแสดง
ความกังวลต่อการที่สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์
- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือใน
เช้าวันศุกร์ตามเวลาไทย เพื่อบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐ
มีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
- ทั่วโลกจับตารัฐบาลจีนและสหรัฐซึ่งเตรียมบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้ โดยในวันดัง
กล่าว สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่
จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกัน
- ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก
ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนี
ภาคบริการเดือนมิ.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนพ.ค.