(เพิ่มเติม) "สมคิด"ลุ้น GDP ปีนี้โตสูงกว่าเป้า 4.5% ของคลัง,เชื่อ กนง.ดูแลช่องว่างดอกเบี้ยไทย-ตปท.ให้เหมาะสม

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 6, 2018 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มาประชุมผู้บริหารกระทรวงคลัง โดยได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นกำลังสำคัญในการดูภาพรวมเศรษฐกิจระดับประเทศ ซึ่งเป้าหมายการเติบโตของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปีนี้ที่คาดไว้ 4.5% ดีแล้ว แต่อยากเห็นจะเติบโตได้สูงกว่า

"มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเรามั่นใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่ ทำอยู่ ในตอนนี้ทุกอย่างมันก็จะดี แต่ถ้าเราไปห่อเหี่ยว กังวลเรื่อง Trade War ค่าเงินบาทอ่อนค่า แข็งค่าหรือปานกลาง มันก็ไม่เป็นผลดีกับเรา ทุกอย่างมันอยู่ที่เราเอง ทำใจให้เข้มแข็งหน่อย"นายสมคิด กล่าว

สำหรับอัตราดอกเบี้ยในประเทศนั้น นายสมคิด กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอยู่ เชื่อว่าไม่น่าจะปล่อยให้เกิดช่องว่างที่ห่างกันเกินไประหว่างดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งตามหลักควรมีการพิจารณาอยู่แล้วว่าจควรจะมีช่วงห่างแค่ไหน เพื่อไม่ให้เกิดเงินไหลเข้าหรือไหลออกอย่างผิดปกติ

ขณะที่สถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น นายสมคิด กล่าวว่า กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานสถานการณ์ว่าตลาดหุ้นยังไปได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"เราต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งไว้ เพราะ flow สภาพคล่องในตลาดโลกจะหมุนไปเรื่อยๆ ถ้าเราทำดี มันจะมาหาเราเอง แต่ถ้าเราไม่ดี ตามหลักการมันก็ต้องอออกจากเราอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นเรื่องปกติ เราต้องดูแลทุกอย่างให้ได้ ไม่ต้องกังวล"นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 7-8 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ดังนั้นอยากให้ทุกหน่วยงานทำงานหนักเป็น 2 เท่า โดยกำชับว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามเป้าหมายและต้องไม่ประมาท

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมสรรพากรเร่งดำเนินการใน 2 เรื่องที่สำคัญ คือ 1.การช่วยเหลือด้านภาษีสำหรับผู้มีรายได้น้อยว่าจะมีการดำเนินการได้อย่างไร และมอบหมายให้ไปดูว่าอะไรที่จะช่วยบรรเทาภาระให้มีผู้รายได้น้อย ซึ่งทราบว่ากรมสรรพากรกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ 2. ด้านดิจิทัล ซึ่งกรมสรรพากรเองวางแผนที่จะพัฒนาด้านอิเล็คทรอนิกส์ให้สำเร็จเพื่อรองรับการทำงานในอนาคต

ในส่วนกรมศุลกากร ได้มอบหมายให้ดูแลการอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษให้กับผู้ประกอบการ โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัยเข้ามาดูและและให้บริการประชาชนอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อรองรับภาคค้าต่าง ๆ

สำหรับกรมบัญชีกลาง ให้อำนวยความสะดวกเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ นอกจากนี้อยู่ระหว่างการหารือหน่วยงานด้านวิจัยให้เข้าดูเรื่องกฎหมายใหม่ๆ ที่ออกมา เพื่อเร่งในการสร้างความรู้และความเข้าใจกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ในเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนของปีงบ 61 ไม่มีปัญหาในการเบิกจ่าย

"ภารกิจสำคัญของรัฐบาล 2 เรื่อง คือ การลดความเหลื่อมล้ำ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในส่วนกระทรวงการคลังต้องดำเนินการให้สอดรับกับภารกิจดังกล่าวด้วย ... ในส่วนภาคการคลังขณะนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่อน แต่ต้องการให้มีการวางเป้าหมายการทำงานไปถึงปีงบ 62 เพราะมีงบที่วางไว้แล้ว ต้องให้ดำเนินการได้ตามเป้าหมาย"

ส่วนคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund:TFF) นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ยืนยันว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะได้ข้อยุติ หลังจากนั้นจะเดินหน้าเปิดขายหน่วยลงทุน ซึ่งจะเป็นอีกแขนขาที่ทำให้รัฐบาลมีเงินลงทุนในโครงการต่างๆ

นายสมคิด กล่าวถึงปัญหาภายในองค์กรของบมจ.การบินไทย (THAI)ว่า ได้กำชับให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท เข้าไปแก้ไข เพื่อสร้างองค์กรให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น อยากให้การบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ ซึ่งคลังพร้อมสนับสนุนหากมีความจำเป็น รวมถึงในเรื่องของตัวกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่ได้ตัวแล้ว แต่ยังแต่งตั้งไม่ได้ และเรื่องของพันธมิตรของสายการบิน Low Cost หากจำเป็นต้องมีก็ให้เร่งดำเนินการ โดยอยากให้ทุกอย่างได้คำตอบภายใน 3 เดือน

พร้อมมอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดในการออกร่างประกาศเชิญชวนเอกชน (TOR) รถไฟทางคู่ที่จะลงไปสู่ภาคใต้ รวมถึงรถไฟที่เชื่อมระหว่างเมือง โดยเฉพาะเมืองรอง ให้หยิบยกขึ้นมาเป็นภารกิจหลัก และดำเนินการให้เร็วขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ