นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 33.31 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดอยู่ที่ 33.25 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 33.23-33.32 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทอ่อนค่าทำสถิติในรอบกว่า 8 เดือนนับจาก 27 ต.ค. มีแรงซื้อดอลลาร์ในตลาดโลกจากความกังวลเรื่อง สงครามการค้ารอบใหม่ หลังสหรัฐฯขู่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.20-33.35 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 111.19 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 110.84 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1703 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1725 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,636.63 จุด ลดลง 6.97 จุด, -0.42% มูลค่าการซื้อขาย 44,493.49 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 761.20 ลบ.(SET+MAI)
- รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา "Thailand Competitiveness Conference 2018" หัวข้อ
Powering Thailand Competitiveness through Digital Transformation ว่า ความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่มีการพูดถึงมาก หลังจากที่เทคโนโลยีการสื่อสาร การคมนาคมเปลี่ยนไป เหล่านี้ถือเป็นบริบทที่ทำให้ประเทศ
ไทยต้องให้ความสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
- ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ก.ค.61 อยู่ที่ 54.72 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.72 จุด
จากเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.00 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าน่าจะมีปัจจัยมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
โลก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แรงซื้อเก็งกำไร นโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และราคาน้ำมันในตลาดโลก
ตามลำดับ
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ระบุว่า เงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งปีแรกเป็นผล
มาจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ โดยคาดว่าในระยะ 6 เดือน
ถึง 1 ปีจากนี้ ค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งแรงได้ และทำให้เงินทุนไหลกลับเข้ามาลงทุน อย่างไรก็ตามเงินทุนไหลออก ส่วนใหญ่จะออก
จากตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเงินทุนไหลออกไปแล้ว 8.19 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 10% ซึ่งยืนยันว่า
ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
- กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 11.4 ล้านคน ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยการลดภาษีมูลค่า
เพิ่ม (VAT) โดยเบื้องต้นจะให้ผู้มีรายได้น้อยเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการฯ แล้วนำบัตรนี้ไปรูดซื้อสินค้าเฉพาะร้านค้าที่มีเครื่อง EDC
ทั่วประเทศ ซึ่งไม่ได้มีการจำกัดประเภทสินค้าที่จะนำไปใช้บัตรสวัสดิการฯ รูดซื้อ แต่อาจจะยกเว้นกับสินค้าประเภทสุรา เบียร์ หรือ
สินค้าที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขต่างๆ
- -ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือนมิ.ย.61
อยู่ที่ระดับ 44.7 โดยปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 จากในเดือนพ.ค.61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 44.9 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้
จ่าย และราคาสินค้าในหมวดเครื่องนุ่งห่มซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว
- กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บ
ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์
- สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศกว่า 180 คนจาก
เอเชีย,ยุโรป และอเมริกาเหนือ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงตลาดจีน ซึ่งพบว่านักลงทุนสถาบันมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการลงทุนใน
ประเทศจีน