นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมปรับเป้าหมายมูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้ใหม่ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้น และการทำงานอย่างหนักร่วมกับผู้ส่งออกในการผลักดันการส่งออก แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องสงครามการค้าโลกก็ตาม
อนึ่ง ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าจะแถลงปรับเป้าหมายการส่งออกไทยในปี 61 ในวันที่ 16 ก.ค.นี้
รมว.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานอย่างหนักร่วมกับกระทรวงการคลังในการผลักดันเศรษฐกิจฐานรากผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ล่าสุด ได้ขยายรูปแบบของการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้ร้านโชห่วย ร้านอาหาร ตลาดสด เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐด้วยการสมัครใช้แอปพลิเคชั่น "ถุงเงินประชารัฐ" ผ่านโทรศัพท์มือถือในการรับชำระค่าสินค้าจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้ว ซึ่งมีร้านค้าย่อยสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 15,000 ราย คาดว่าจะผลักดันให้ร้านค้าเข้าร่วมได้ตามเป้าหมาย 100,000 รายภายในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากจะช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือร้านค้ารายย่อย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
"SMEs ที่จะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมร้านธงฟ้าประชารัฐ คิดง่ายๆ วงเงินที่รัฐบาลให้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 4,000 ล้านบาท หรือปีละ 48,000 ล้านบาท ในการใช้จ่ายซื้อสินค้า เม็ดเงินเหล่านี้ก็จะมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก"นายสนธิรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้เร่งเครื่องในการช่วยเหลือสินค้าเกษตรไม่ให้ราคาตกต่ำ โดยรัฐบาลมีได้วางแผนดูแลราคาสินค้าเกษตรไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะการใช้อี-คอมเมิร์ซ เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าเกษตร เช่น ความร่วมมือระหว่างเว็บไซต์ thaitrade.com และอาลีบาบา กรุ๊ป ผ่านเว็บไซต์ Tmall.com ที่ได้มีผลักดันสินค้าข้าวและทุเรียนเข้าไปขายเป็นการนำร่องแล้วและมียอดสั่งซื้อถล่มทลาย ดังนั้น การทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังจะมีทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากฟื้นได้ภายในสิ้นปีนี้