"ฉัตรชัย" กำชับอคส.-อ.ต.ก.คุมเข้มตรวจสอบข้าวใช้ในอุตสาหกรรมไม่ให้รั่วไหลเข้าสู่ตลาดปกติ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 13, 2018 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ได้กำชับให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ตรวจสอบการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมของผู้ซื้อข้าวในสต็อกของรัฐให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ข้อกำหนดและแผนงานที่วางไว้โดยเคร่งครัด หากตรวจพบผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาโดยนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์จากที่ได้แจ้งรับรองไว้ ให้ทั้ง 2 หน่วยงานในฐานะคู่สัญญา ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกำหนดอายุความของคดีนั้นๆ

ด้านนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อคส. และ อ.ต.ก. กรณีตรวจพบข้อพิรุธและข้อสังเกตในการนำข้าวไปใช้ในกระบวนการแปรรูปทางอุตสาหกรรมของผู้ซื้อข้าวในสต็อกของรัฐ ซึ่งได้ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่

1.กรณีบริษัท วี ออร์แกนนิก จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร นำข้าวไปผลิตเป็นปุ๋ย (สารปรับปรุงคุณภาพดิน) ซึ่งไม่เป็นไปตามหนังสือรับรองการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมที่รับรองว่าจะนำไปผลิตปุ๋ย และในกระบวนการผลิตตรวจสอบพบว่า ผู้ซื้อไม่นำข้าวไปบดหรือตีป่นเสียก่อนซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาในกระบวนการแปรรูปที่ผู้ซื้อได้แจ้งไว้ในแผนกระบวนการผลิต

ดังนั้น อคส. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ บริษัท วี ออร์แกนนิกฯ และขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนสั่งฟ้องบริษัท วี ออร์แกนนิกฯ ให้กับพนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชรแล้วในความผิดฐานร่วมกันขนย้ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่นและแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน โดย อคส. จะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าปรับ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ จากบริษัท วี ออร์แกนนิกฯ ตามสัญญาต่อไป

2.กรณีตรวจพบข้อพิรุธการขนย้ายข้าวสาร ณ จังหวัดสระแก้ว โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ตำรวจ สภ. เมือง สระแก้ว ได้สกัดจับรถบรรทุกพ่วงข้าวสาร 7 คันที่ไม่มีหนังสือกำกับการขนย้ายข้าวโดยสันนิษฐานว่าได้มีการลักลอบขนข้าวในสต็อกของรัฐ ขณะนี้คนขับรถบรรทุกทั้ง 7 คนได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาขนย้ายข้าวสารซึ่งมีปริมาณตั้งแต่ 10 เมตริกตันขึ้นไป เข้ามาหรือออกจากจังหวัดสระแก้วโดยไม่ได้รับอนุญาต และศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินโทษแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและระบุผู้ร่วมกระทำความผิดในกรณีดังกล่าวต่อไป

3.การตรวจสอบการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของผู้ซื้อข้าวในสต็อกของรัฐจำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด และบริษัท วีซีเอฟ กรุ๊ป จำกัด ตามที่ได้รับแจ้งข้อสังเกตจากจังหวัดราชบุรี โดยประธานอนุกรรมการฯ ได้มอบให้ อคส. และ อ.ต.ก. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยละเอียดพร้อมรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบโดยเร็วภายในหนึ่งสัปดาห์

ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ ยังได้กำชับให้ อคส. และ อ.ต.ก. ในฐานะหน่วยปฏิบัติที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ดำเนินมาตรการควบคุมการนำข้าวในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างเข้มงวดและรัดกุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำสัญญาซื้อขายข้าว การขนย้ายข้าว และนำข้าวไปใช้ในกระบวนการผลิตตามที่ผู้ซื้อมีหนังสือรับรองไว้ ซึ่งรวมถึงการกำกับดูแลข้าวที่รัฐได้ระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมในปี 2561 ที่อยู่ระหว่างการทำสัญญา ปริมาณรวม 1.96 ล้านตัน ประกอบด้วย ข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน (กลุ่มที่ 2) ปริมาณ 1.44 ล้านตัน และข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ (กลุ่มที่ 3) ปริมาณ 0.52 ล้านตันด้วย

ทั้งนี้ หากผู้ซื้อข้าวในสต็อกของรัฐไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญา เช่น ไม่ดำเนินการรับมอบข้าวหรือรับมอบข้าวล่าช้า ให้ อคส. และ อ.ต.ก. พิจารณาเรียกร้องค่าปรับและค่าใช้จ่ายตามสัญญา และโดยเฉพาะการแปรรูปเข้าสู่อุตสาหกรรมหรือนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์จากที่ได้แจ้งรับรองไว้ซึ่งได้กำหนดบทลงโทษอย่างชัดเจนรัดกุม ให้ อคส. และ อ.ต.ก. ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกำหนดอายุความของคดีนั้นๆ เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ