ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.32/36 อ่อนค่าจากเช้า นลท.ยังมั่นใจถือดอลลาร์ คาดบาทสัปดาห์หน้า 33.25-33.45

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 13, 2018 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.32/36 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 33.19 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า เนื่องจาก Sentiment ของทางสหรัฐฯ ยังค่อนข้างดี ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวออก มาดี ทำให้นักลงทุนมั่นใจที่จะถือครองดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แม้ปัจจัยเรื่องของสงครามการ ค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

"Sentiment ของสหรัฐฯดีต่อเนื่อง เพราะตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทำให้นักลงทุนเพิ่มความมั่นใจที่จะถือดอลลาร์"
นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.25 - 33.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.46 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.63 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1634 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1668 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.59 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 37,635 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 343.50 ลบ.(SET+MAI)
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยน่าจะได้รับผลกระทบ
ทางอ้อมจากสงครามการค้าโลกในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงการสั่งซื้อสินค้า และมาตรการที่สหรัฐฯ และจีนขึ้นภาษีนำเข้า
ระหว่างกันทยอยมีผลบังคับใช้จะทำให้หลายประเทศที่ไทยส่งออกสินค้าไปขายได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯใช้มาตรการกีดกันทาง
การค้า โดยสินค้าไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจากการส่งออกไปสหรัฐฯแล้ว คือ แผงโซลาร์เซลส์, เครื่องซักผ้า, เหล็กและ
อลูมิเนียม ส่วนกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน หากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้า น่าจะเริ่มใช้
ในช่วงต้นปี 62 เป็นต้นไป
  • สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อ
เทียบรายปี แตะที่ระดับ 14.12 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.12 ล้านล้านดอลลาร์) โดยยอดส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เพิ่ม
ขึ้น 4.9% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 11.5% ซึ่งส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 9.0132 แสนล้านหยวน ลด
ลง 26.7%
  • นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าในระดับสูงนั้น จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และหากสหรัฐตั้งภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น
สำหรับสินค้าและการบริการจำนวนมาก และมาตรการดังกล่าวมีการบังคับใช้อย่างยาวนาน ก็จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจ
ของสหรัฐเอง
  • เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นว่า แผน
Soft Brexit ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจทำลายข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐ พร้อมกับเตือน
ว่า หากอังกฤษยังดึงดันที่จะใช้แผนดังกล่าวต่อไป สหรัฐจะหันไปทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรปแทน
  • เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน เปิดเผยว่า บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ (BRICS) ซึ่งประกอบด้วย
ประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ พร้อมแสดงจุดยืนต่อต้านมาตรการปกป้องทางภาษีที่สหรัฐบังคับใช้กับประเทศ
ต่างๆ โดยผู้นำชาติสมาชิกของกลุ่มบริคส์ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่ประเทศแอฟริกาใต้เป็นเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ 25
ก.ค.เป็นต้นไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ