(เพิ่มเติม) รมว.พาณิชย์ ประเมินภาพรวมไทยได้ผลบวกจากสงครามการค้า คาดส่งออกปีนี้มีโอกาสโต 2 digit

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 16, 2018 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสงครามการค้าอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าการส่งออกไทยในปีนี้จะเติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% อย่างแน่นอน และยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้ในระดับ 2 หลัก

"มั่นใจว่าจะเกิน 8% ที่เป็นเป้าหมายเดิม ส่วนจะเป็นเท่าไหร่นั้น ถ้าไม่มีเรื่องสงครามการค้าเราคงจะประเมินได้ง่ายกว่านี้ แต่เราจะติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเราก็อยากจะเห็นตัวเลขมากกว่าที่คาดหวัง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเห็น 2 digit ซึ่งก็น่าจะมีโอกาส" รมว.พาณิชย์กล่าว

ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมกับภาคเอกชนผู้ส่งออกทั้งธุรกิจด้านเกษตรและอาหาร เพื่อประเมินสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีต่อการส่งออกของไทย พบว่า ในภาพรวมแล้วสงครามการค้าได้ส่งผลในเชิงบวกต่อการส่งออกของไทยมากกว่า เนื่องจากการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้สร้างโอกาสแก่ไทยที่จะส่งสินค้าเข้าไปแทนที่สินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น

โดยสินค้าไทยที่คาดว่าจะมีโอกาสขยายการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นแทนสินค้าสหรัฐฯ ได้แก่ 1.สินค้าประมง เช่น กุ้ง ซึ่งคาดว่าจีนจะนำเข้าจากสหรัฐน้อยลงจากการขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้มาตรการทางการค้าของสหรัฐ 2.สินค้าผลไม้ เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคจีนนิยมบริโภคและไทยยังมีการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นทุกปี 3.ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น เนื้อไก่ เนื้อสุกรแปรรูป เป็นต้น

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขอให้แต่ละสมาคมฯ กลับไปประเมินตัวเลขอีกครั้ง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะนำมาพิจารณาดูว่าเป้าหมายที่เรามองไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพื่อจะขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ประมาณเดือนส.ค.อาจจะมีการทบทวนตัวเลขการส่งออกใหม่

"จากการหารือกับภาคเอกชนในวันนี้ได้ขอให้แต่ละสมาคมฯ กลับไปรวบรวมข้อมูลสรุปผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบจากสงครามการค้าแล้วนำกลับมารายงานให้กระทรวงพาณิชย์อีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อจะนำมาประเมินเป็นเป้าหมายการส่งออกใหม่สำหรับปีนี้ต่อไป" รมว.พาณิชย์ กล่าว

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะติดตามมาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนประเทศต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยไปยังประเทศที่เป็นกลุ่มตลาดเก่าและตลาดใหม่ ตลอดจนเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจในโลก

ทั้งนี้ จะติดตามและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการนำเข้า ซึ่งหากเห็นว่าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ที่จะทำให้เกิดการเบี่ยงเบนการค้า โดยมีสินค้าเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นหรือมีสินค้าที่เข้ามาทุ่มตลาด ขอให้เอกชนแจ้งกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิจารณานำมาตรการทางการค้าที่เหมาะสมมาใช้ อาทิ มาตรการปกป้องทางการค้า, มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด

ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนยังได้มีข้อเสนอแนะให้ภาครัฐพิจารณาให้ความช่วยเหลือในประเด็นต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน และเตรียมรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งเสนอให้เร่งการเจรจาข้อตกลงเสรีการค้า (FTA) เพื่อเปิดตลาดใหม่และสร้างโอกาสในการส่งออกให้แก่สินค้าไทย เช่น FTA ไทย-อียู เป็นต้น

https://www.youtube.com/watch?v=YVdEPORD6HQ&feature=youtu.be


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ