ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.42 ทรงตัวจากช่วงเช้า แม้ระหว่างวันผันผวน มองสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35-33.55

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 20, 2018 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน ระดับเดียวกับเปิดตลาดช่วงเช้า แต่ระหว่างวันค่อนข้างผันผวน โดยบาทแกว่งตัวในกรอบ 33.39-33.52 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งทำนิวไฮ ในรอบ 9 เดือนกว่าๆ นับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.60 ที่ระดับ 33.52 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าและเงิน หยวนอ่อนค่า

"บาทค่อนข้างผันผวน ระหว่างวันไปทำ new high ที่ระดับ 33.52 บาท/ดอลลาร์ นับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.60" นัก
บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.35-33.55 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 112.43 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.32 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1656 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1628 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,671.06 จุด เพิ่มขึ้น 24.17 จุด, +1.47% มูลค่าการซื้อขาย 67,269.23 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,003.60 ล้านบาท(SET+MAI)
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน มิ.
ย.61 ระบุว่า การส่งออกมีมูลค่า 21,779 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 8.19% จากตลาดคาดโต 9.5% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า
20,201 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 10.83% ส่งผลให้ดุลการค้า มิ.ย. เกินดุล 1,578 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับภาพรวมการส่ง
ออกในปีนี้จะเติบโตได้เกินเป้าหมาย 8% ที่วางไว้
  • ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย) กล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าคณะ
กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. 61 และในช่วง
ไตรมาส 4/61 โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2% จากปัจจุบันที่ 1.5%

นอกจากนี้ ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 61 ขยายตัวที่ 4.3% จากปัจจัยของการส่งออกที่ ยังขยายตัวได้ดี และคาดว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าน้อย และยังมีแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับ มาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/61 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น

  • เอกอัครราชทูตจีน ได้หารือในประเด็นความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีและอีกหลายประเด็นกับนายจอห์น ซัลลิแวน รัฐมนตรี
ช่วยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
  • ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรรมเยอรมัน (DIHK) เตือนว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐอาจ
ทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของเยอรมนีหดตัวลงราว 6 พันล้านยูโร (6.99 พันล้านดอลลาร์) พร้อมระบุว่า การเรียกเก็บภาษีเพิ่มนั้น
เป็นการขัดต่อกฎหมายสากล และการกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในเยอรมนีและยุโรปเท่านั้น แต่ยังกระทบ
การจ้างงานและการลงทุนในสหรัฐด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ