นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และอดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แนะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่ หลังจากที่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 1/61 ขยายตัวได้สูงถึง 4.8% ซึ่งทำให้หลายหน่วยงานได้ปรับเพิ่มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
"เป็นเหตุผลที่ดี และถึงเวลาที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะบริบททางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ช่วยเสริมให้การเติบโตทำได้ดีขึ้น ทั้งจากภาคส่งออก การท่องเที่ยว ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น...มองว่าเงื่อนไขในการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หรืออัตราดอกเบี้ยต่ำในการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจำเป็นน้อยลง ดังนั้น ธปท. จึงควรเริ่มทบทวนการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรองรับแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" อดีต รองผู้ว่าฯ ธปท. กล่าว
พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาหลายประเทศในภูมิภาคเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว ดังนั้นไทยจำเป็นต้องทบทวนนโยบายการเงิน เพราะหากไม่ทำก็อาจจะมีแรงกดดันต่ออัตราแลกเปลี่ยน และทำให้เกิดเงินทุนไหลออกได้ การพิจารณาทบทวนนโยบายการเงินเป็นเรื่องที่ต้องทำล่วงหน้า เพราะเมื่อมีการส่งผ่านนโยบายการเงินออกไปแล้ว ต้องใช้เวลา 12-18 เดือนจึงจะเห็นผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือจะเริ่มเห็นการได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น